แดนกลางแน่น คล็อปป์ ตกลงปลงใจส่ง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน เล่นร่วมกับ นาบี เกอิต้า รวมทั้ง ฟาบินโญ่

แดนกลางแน่น จากนั้นก็จัดการไม่ให้มิดฟิลด์ “รอสโซเนรี่” ได้ปั้นเกมอย่างที่จิตใจมุ่งมาดปรารถนาได้เลย “กัปตันเฮนโด้” กับ ฟาบินโญ่ ใส่ประสานการเล่นได้อย่างพอดิบพอดีโดยในรายของ เฮนเดอร์สัน คอยช่วยตัดเกม ผ่านบอลแถมยังสร้างวิถีทางให้เพื่อนพ้องร่วมกลุ่มได้พอเพียง 3 ครั้ง และทำคะแนนสุดสวยซะด้วย จะต้องบอกเลยว่า

ในเวลาที่ มิดฟิลด์กรุ๊ปชาติบราซิล คอยปฏิบัติภารกิจเชื่อมเกมและคุมจังหวะ มีครั้งคราวที่วิ่งใส่ขึ้นไปกดดันแนวรับมิลาน ส่วน เกอิต้า แมตช์นี้เล่นได้ดิบได้ดีไม่แพ้กัน อีกทั้งการวิ่งเพิ่มเกมที่เร็วทันใจ, แย่งบอลจากคู่ชิงได้แม่น และยังอุตสาหะเลี้ยงบอลทะลุผ่านเข้าไปในกรอบจุดลูกโทษมิลานด้วย

ส่วนสองฟูลตัวบุกปีกซ้าย-ขวาต้องบอกเลยว่าปอดกับหัวใจเสริมใยเหล็กมาหรือเปล่า เนื่องจากว่าทั้งยัง แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน และจากนั้นก็ “เจ้าหนูเทรนต์” วิ่งขึ้นวิ่งลงแบบไม่รู้อ่อนล้า ซึ่งทำให้เกมทางกราบมีความอันตรายรวมถึงแทบจะช่วยปรับให้กรุ๊ปได้ประตูบ่อยหลายหน

ในส่วนของ โรเบิร์ตสัน ไม่มีอะไรจึงควรว่ากล่าวเพราะทำหน้าที่ได้อย่างพอดิบพอดี ทั้งวิ่งดันเกมรุกสร้างจังหวะให้กรุ๊ปได้เท่าๆกับ “เฮนโด้” ในตอนที่เกมรับก็เล่นได้เนียนตา ส่วน อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ก็ยังคงดังที่เคย เกมรุกดีเกมรับพลาด โดยสองประตูที่กรุ๊ปเสียก็มาจากการควบคุมไม่ดีทางฝั่งขวา ซึ่งเป็นจุดที่เขาต้องแก้ไขต่อไป

บังโมเปรียบตำนานกัปตันสตีวี่จี นี่เป็นอีกหนึ่งเกมที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ทำผลงานได้ดีเยี่ยม ความรวดเร็ว และจากนั้นก็ความแข็งแกร่งของเขาปั่นป่วนเกมรับ มิลาน จนกระทั่งตั้งกระบวนยุทธประมือไม่ไหว มีบ่อยครั้งที่ “บังโม” เกือบที่จะส่งบอลไปซุกตูดตาข่ายในตอนครึ่งแรก “บังโม” พึ่งจารึกชื่อเป็นนักเตะทำสกอร์เร็วสุด 100 ลูกในเกมลีกลำดับที่ 5

ส่วนแมตช์นี้เขาสบโอกาสบวกสกอร์ให้กรุ๊ปตั้งแต่ครึ่งแรกจากจุดลูกโทษ หากแม้โชคร้ายที่ยิงไม่ดี โดย ไมค์ เมนญอง เซฟได้ แม้กระนั้นในที่สุดสตาร์ลูกหนังชาวอียิปต์ก็มาซัดประตูสำคัญช่วยกรุ๊ปในตอนแรกตอนหลังได้สำเร็จ

แมตช์นี้ ซาลาห์ สามารถใช้ความเร็วแล้วหลังจากนั้นก็ความคล่องตัวเตรียมการกับ เตโอ แอร์กน็องเดซ ตัวบุกปีกซ้าย มิลาน จนตราบเท่าเล่นไม่ออก ผลงานของเขาช่วยปรับให้ ลิเวอร์พูล มีเกมบุกที่หวือหวา และจากนั้นก็อันตรายเมื่อใดก็ตามบอลอยู่ในเท้า “บังโม”

ช่วงเวลาเดียวกัน ซาลาห์ ก็ยังประสานงานได้ดีเยี่ยมกับ ดิว็อค โอริกี้ ในจังหวะที่ทำคะแนนตีเสมอ 2-2

แดนกลางแน่น

แดนกลางแน่น รุกไม่มีกลัว-รับยังมีตำหนิ! เจาะ 5 หลักสำคัญ ลิเวอร์พูล สอย เอซี มิลาน ประเดิมศึกแชมเปี้ยนส์ ลีก

ลิเวอร์พูล ด้วยการเปิดรังแอนฟิลด์ เฉือน เอซี มิลาน 3-2 โดยแมตช์นี้ “หงส์แดง” ได้ช่องทำคะแนนเยอะมาก แต่โชคร้ายที่ขาดความเฉียบคม แมตช์นี้ “เดอะ เร้ดส์” มีความสะดุดตาเป็นอย่างมากในจังหวะการเล่นเกมบุก แต่สิ่งที่หายไปเป็นความจบสกอร์ที่แน่นอน

ในขณะเกมรับเสียสมาธิไปบ้างจนกระทั่งทำให้โดนยิงรวดสองประตูในช่วงท้ายครึ่งแรก แม้ว่า เจอร์เก้น คล็อปป์ บอกให้เห็นแล้วว่าการเล่นเกมรุกถึงใจถึงอารมณ์ทำให้ ลิเวอร์พูล สามารถกลับเรื่องกลับมาคว้า 3 คะแนนได้เสร็จ

ในเวลาที่ มิลาน ถือได้ว่าเป็นการเปิดตัวการกลับมาเล่นถ้วย “บิ๊กเอียร์” ตอนแรกในรอบ 7 ปี แม้ว่าจะกลับบ้านมือเปล่า แม้ว่าพวกเขาก็สู้ได้สุดมันด้วยเหมือนกัน มาติปแข็งแกร่งคุมแนวรับอยู่มือ ผลงานของ โฌแอล มาติป เดี๋ยวนี้ถือได้ว่าเป็นแผงหลังที่สาวก “เดอะ ค็อป” วางใจได้เท่าๆกับ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์

โดยเกมนี้เขาปฏิบัติภารกิจเป็นหัวหน้าในแผงแบ็กโฟร์ได้อย่างดียิ่ง และก็ช่วยประคอบ โจ โกเมซ ทำให้สามารถเล่นได้อย่างไม่กดดัน การที่ คล็อปป์ ตกลงปลงใจดร็อป ฟาน ไดค์ น่าจะมีผลมาจากเรื่องสภาพร่างกายเนื่องมาจากเอาเข้าจริงๆแนวรับชาวฮอลล์แลนด์ คงยังไม่สมบูรณ์สุดกำลังจนกระทั่งสามารถลงในสนามต่อเนื่องกันหลายเกม กีฬาขี่ม้า

แต่ว่าเกมรับของเจ้าของบ้านยังมองดูเข้มแข็งด้วยเหตุว่าได้ มาติปคอยปฏิบัติภารกิจเป็นพี่ใหญ่คุมสถาานการณ์ได้หมด ถึงแม้ไม่นับตอน 5 นาทีในที่สุดของครึ่งแรก ตลอดทั้งเกม มาติปสามารถเตรียมพร้อมเกมบุกของ มิลาน ได้หมดเรียบวุธ จังหวะจัดแจงบอลถูกต้องแม่นยำ การสกัดลูกโด่งที่เด็ดขาด และก็ยังมีการโชว์สเต็ปขึ้นไปทำเกมบุกด้วย

ในส่วนของการขึ้นไปบังคับแนวรับของ “ปีศาจแดงดำ” ในระหว่างที่ ลิเวอร์พูล ได้ลูกเตะมุมก็ทำเป็นดี และจากนั้นก็เกือบทำสกอร์ได้โชคร้ายที่จังหวะโหม่งของเขาไปตรงตัว ไมค์ เมนญอง โดยรวมแล้วผลงานของมาติป ในแมตช์นี้ดีเลิศมายๆก็เลยไม่เฉลียวใจว่าเพราะเหตุใด อิบราฮิม่า โกนาเต้ จำเป็นที่จะต้องนั่งตบยุงอยู่ในซุ้มม้านั่งสำรองตั้งแต่เปิดฤดู

หากไม่เกิดอาเพศโดนโรคเดี้ยงพรากออกมาจากสนามสำหรับเพื่อการแข่งขัน งานนี้บอกเลยว่ามาติป กับ ฟาน ไดค์ น่าจะเป็นคู่แนวรับที่ คล็อปป์ จะใช้ไปยาวๆตลอดทั้งฤดูนี้ ส่วน โกเมซ กับ โกนาเต้ ต้องคอยจังหวะของพวกเขาเท่านั้นเอง

แดนกลางแน่น

เล่นไม่กลัวจนถึงแทบจะพังทลาย

ตั้งแต่ต้นเกมจนตราบเท่าเสียงนกหวีดยาวจากปากท่านเปาดังลั่นสนาม แฟนบอล “หงส์แดง” คงรู้สึกได้ถึงความสนุกมันตื่นเต้นกับสไตล์การเล่นที่โคตรถึงใจถึงอารมณ์เช่นเดียวกันกับดนตรีเฮฟวี่ เมทัล ที่สาดใส่ เอซี มิลาน จำพวกที่ไม่ได้หายใจหายคอกันอปิ้งยิ่งจริงๆการเล่นในสไตล์ “เกเก้นเพรสซิ่ง”

ทำเอา “รอสโซเนรี่” เปิดหนังสือเรียนพิชัยยุทธประมือแทบไม่ทัน ตอนท้ายมาเสียประตูจากการขึ้นเกมที่สุดยอดของ “หงส์แดง” ก่อนจะจบที่ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ซัดไถลแนวรับเยือนเข้าประตู

ตลอดตอน 40 นาทีที่ ลิเวอร์พูล เริ่มไล่ยำมิลาน แทบจะไม่มีอะไรตำหนิติเตียนเลยเพราะเหตุว่าพวกเขาเล่นเกมบุกได้ดุเดือดเลือดพล่าน ส่วนเกมรับก็เกือบไม่ต้องดำเนินการเนื่องจาก มิลาน มัวแต่เปิดตำราเรียนตั้งรับจนกระทั่งแทบจะโงหัวไม่ขึ้น แม้ว่าสิ่งที่น่าต่อว่าต่อขานก็คือความเด็ดขาดสำหรับในการทำคะแนน แล้วก็การเล่นติดประมาทอย่างมากหน่อย

ตอน 5 นาทีในที่สุด มิลาน ขึ้นเกมมาแบบไม่ได้อยากได้ลุ้นอะไรมากเท่าไรนัก เสมอเหมือนจะผลาญเวลาให้หมดไปเท่านั้นเอง แต่พวกเขากลับได้สองประตู เพราะการเล่นที่ไม่รัดกุมของเกมรับเจ้าของบ้าน โดยเฉพาะการยืนตำแหน่งที่งงมั่วซั่วอย่างกับไม่มีสมาธิ ซึ่งสิ่งนี้อาจจะเป็นผลให้ คล็อปป์ เข้าไปสวดผู้ร่วมทีมยับในช่วงพักครึ่ง

ระยะหลังการขาดสมาธิ ก็แทบจะทำให้กรุ๊ปจึงควรแปลงเป็นรอง 3-1 หากแม้โชคดีจังหวะยิงของ ไซม่อน เคียร์ เป็นลูกล้ำหน้า ถึงแม้ว่าภายหลังดูเหมือนกับว่าเกมของ ลิเวอร์พูล จะเล่นอย่างมีสมาธิไม่บุกเพลิดเพลินใจจนกว่าทำให้เสียตำแหน่ง และสามารถคุมสถานการณ์เกมยอมรับได้เหนียวแน่น

ในตอนที่เกมรุกยังคงอันตรายในทุกจังหวะ สิ่งเดียวที่จะว่ากล่าวในแมตช์นี้ก็คือการบุกเพลิดเพลินเจริญใจจนถึงออกอาการประมาทเยอะแยะไปหน่อย แถมไม่อาจจะจบสกอร์ได้เฉียบคมทำให้คู่แค้นได้ช่องรู้สึกตัว และแทบจะก่อให้เกิดหายนะ

เจ็ดปีที่คอยของ มิลาน สเตฟาโน่ ปิโอลี่ สามารถนำ เอซี มิลาน กลับมาสู่เวทีใหญ่ที่สุดในเกมบอลถ้วยยุโรป ซึ่งพวกเขาเคยมีอำนาจมานานในช่วงปลายยุค 80 จวบจนกระทั่งกลางยุค 90 นี่เป็นสิ่งที่แฟนบอลมิลาน คอยมาตลอดกับบรรยากาศยามค่ำคืนตอนตรงกลางอาทิตย์

จะว่าไปแล้ว “ปีศาจแดงดำ” มายอดเยี่ยมถิ่นแอนฟิลด์ด้วยฟอร์มที่อันตรายพอประมาณ โดยผลงานในลีกของพวกเขาก็ยอดเยี่ยมเมื่อกลุ่มชนะมา 4 เกมต่อเนื่องกันรวมทุกรายการ แต่ว่าพวกเขาจำเป็นต้องมาพบกับเจ้าของบ้านที่ฟอร์มกระฉูดไม่แพ้กัน

ต้องรับสารภาพว่า ปิโอลี่ แอนด์ โค. บางทีอาจไม่เคยเจอกับสไตล์การเล่นที่ไล่เพรสซิ่งตั้งแต่กรอบจุดลูกโทษคู่แข่งเหมือนกับที่ ลิเวอร์พูล บอกถึง ในเวลาที่พวกเขาปะทะกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในศึกยูโรปา ลีก เมื่อฤดูก่อนหน้านี้ ก็ยังไม่เคยโดนเกมบุกแบบบ้าบิ่นจำพวกที่ไม่ให้หายใจหายคออย่างนี้ด้วย

สิ่งเดียวที่จะต้องกล่าวว่า “รอสโซเนรี่” รอดการเสียประตูเป็นกระบุงเพราะว่า “เดอะ เร้ดส์” ไม่เด็ดขาด ส่วนจังหวะที่พวกเขาได้สองประตูก็จำเป็นที่จะต้องยกเครดิตสำหรับในการเล่นเกมรุก แต่เวลาเดียวกันก็จำเป็นต้องจวกแนวรับ ลิเวอร์พูล ที่ดันงงงวยตำแหน่งจนกระทั่งโดนลงทัณฑ์อย่างที่เห็น

การกลับคืนสู่เวทีแชมเปี้ยนส์ ลีก ของ มิลาน จำเป็นต้องบอกเลยว่าพวกเขายังมีงานสุดหินรออยู่ทั้งการพบกับ แอตเลติโก มาดริด และเอฟซี ปอร์โต้ หากยังต้องการจะไปให้ไกลกว่านี้ ปิโอลี่ จำเป็นที่จะต้องรีบกระตุ้นกรุ๊ปอย่างเร็ว

https://www.aikijujutsu.com/