จะต้องบอกเลยว่า ทั้งยัง 2 ทีมทำผลงานได้อย่างดียิ่งยอดเยี่ยมในสองแมตช์แรก

จะต้องบอกเลยว่า เมื่อเก็บชัยได้เรียบวุธ และไม่เสียประตู ทำให้พวกเขารั้งตำแหน่งหัวหน้าฝูงร่วม แม้กระนั้นในเกมนี้ มีความน่าจะเป็นไปได้สูง ที่จะส่งผลการแข่งขันแพ้หรือชนะ มากยิ่งกว่าผลเสมอ

เชลซี แล้วก็ หงส์แดง เป็นกลุ่มที่มีเกมรุกเต็มไปด้วยความสามารถ ในตอนที่เกมรับก็กล้าแกร่งพอกัน ฉะนั้นนี่จะเป็นแมตช์ ชั่วโมงนี้จะต้องยอม

ที่จะจำเป็นต้องชิงไหวชิงพริบกันในทุกๆตำแหน่ง แล้วก็ถ้าเกิดใครเป็นข้างทำพลาด ช่องทางที่จะเสียประตูมีค่อนข้างจะสูงอย่างยิ่งจริงๆ

สำหรับตำแหน่งตัวบุกปีกซ้ายในตอนแรกสาวก “เดอะ ค็อป” อาจจะรู้สึกเป็นทุกข์พอควรจากการที่ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน มีปัญหาเจ็บในตอนอุ่นเครื่องปรีซีซั่น แม้กระนั้น คอสตาส ซิมิคาส สามารถลงมาทำแทนเจริญพอสมควร

ถึงแม้ในเกมแรกที่ชนะ นอริช สิตี้ ผลงานของ ฟูลแบ็กชาวภาษากรีก มีปัญหาอยู่บ้าง จะต้องบอกเลยว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในเรื่องเกมรับแล้วก็ความมั่นใจ สำหรับในการเล่น

ทำให้โดนตำหนิพอสมควร แม้กระนั้นสำหรับแมตช์ที่สอย เบิร์นลี่ย์ เจ้าตัวได้รับคำชื่นชมอีกทั้งเกมรับ แล้วก็เกมรุก

แม้กระนั้นขณะนี้ โรเบิร์ตสัน กลับมาฟิตบริบูรณ์แล้ว และก็แน่ๆว่าปริศนาก็คือเขาจะได้กลับคืนตำแหน่งทันทีหรือไม่ ในเมื่อตัวบุกปีกซ้ายทีมชาติกรีซ โชว์ฟอร์มได้ดีเยี่ยม แล้วก็เหมาะสมที่กำลังจะได้ลงเล่นในเกมต่อกร เชลซี

งานนี้ดูอย่างกับว่าคำตอบคงจะออกมาที่ “ร็อบโบ้” หวนคืนตัวจริง ส่วน ซิมิคาส ก็จำเป็นต้องเห็นด้วยภาวะ เนื่องจากว่าถ้าหากมองจากความจริง ตัวรุกชาวสกอตติช มีประสบการณ์ในเกมใหญ่อย่างงี้ แล้วก็คงจะจัดการเกมรุกของ “สิงห์บลูส์” ได้ดีมากว่า

จะต้องบอกเลยว่า

สิ่งที่ หงส์แดง ควรต้องระวังให้ดีๆซึ่งก็คือเกมรุก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่พวกเขามี โรเมลู ลูกากู ยืนปฏิบัติหน้าที่ล่าตาข่าย เนื่องจากตอนนี้ “พี่ตู้” เต็มไปด้วยความเชื่อมั่น หลังจากเล่นได้อย่างสะดุดตาในเกมชนะ อาร์เซน่อล เมื่อสุดสัปดาห์ก่อน

จอมบุกกลุ่มชาติเบลเยียม เต็มไปด้วยความแข็งแกร่ง แล้วก็เร็วทันใจ แถมยังสามารถวิ่งหาพื้นที่ว่างสำหรับการทำแต้มได้อย่างชาญฉลาด รวมทั้งยังมีการจบสกอร์ที่เฉียบคม นี่เป็นสิ่งที่้เกมรับ “ลิเวอร์พูล” ต้องระมัดระวังเอาไว้ให้ดีๆ

แต่ “เดอะ เร้ดส์” มี เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ที่พร้อมจะจัดการความแข็งแกร่งของ ลูกากู โดย ตัวรุกชาวดัตช์ กลับมาฟิตบริบูรณ์ แล้วก็เป็นหัวใจในแนวรับที่ หงส์แดง ต้องมีให้ได้ โดยเห็นได้ชัดกับผลงาน 2 แมตช์ก่อนหน้าที่ผ่านมา https://www.bridestonewalkers.com/

งานนี้บอกเลยว่า ลูกากู คงจะจำต้องใช้ความแข็งแกร่งให้เต็มกำลังเพื่อผ่าน ฟาน ไดค์ เข้าไปทดลองความหนึบของ อลีสซง เบ็คเกอร์ ซึ่งแน่ๆว่าการสู้กันของทั้งคู่คนเกิดเรื่องที่น่าสนใจเนื่องจากว่าราวกับการปะทะระหว่างสองยักษ์ใหญ่ในเกมรุกกับเกมรับ

สิ่งหนึ่งที่คงจะทำให้แฟนบอลลิเวอร์พูล อุ่นใจเมื่อมองเห็น ฟาน ไดค์ ลงคุมแนวรับก็คือ เขาไม่เคยนำกลุ่มแพ้สำหรับในการเล่นเกมลีกที่แอนฟิลด์ โดยเหตุนี้สถิตินี้ สาวก “เดอะ ค็อป” อาจจะอยากที่จะให้มันดำรงอยู่ถัดไปอีกนาน

ผลงานของ ดีเอโก้ อาจจะทำให้ คล็อปป์ ยากจะดร็อปเขาออกได้ และไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะมองเห็นเขาปฏิบัติหน้าที่สามผสานร่วมกับ ซาดิโอ มาเน่ รวมทั้ง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ สำหรับเพื่อการปะทะกับ “สิงห์บูลส์”

โชต้า ชี้ให้เห็นว่าเขาสามารถรวมบทหน้าเป้าได้อย่างยอดเยี่ยมยอดเยี่ยม

โดย จอมบุกชาวโปรตุกีส เป็นพวกจมูกไว วิ่งหาพื้นที่ว่างเก่ง รวมทั้งมีความเฉียบคมสำหรับในการจบสกอร์ โน่นทำให้เขาได้รับช่องทางก่อน โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ในตอนต้นฤดูกาลนี้

นอกเหนือจากนั้น ตัวรุกชาวโปรตุกีส ซัดประตู 2 เกมแรกในพรีเมียร์ลีกฤดูนี้ และก็เขามีโอกาสที่กำลังจะได้เป็นนักฟุตบอลผู้ที่ 4 ซึ่งสามารถทำประตูให้กับต้นสังกัด 3 แมตช์ต่อเนื่องกัน

โดยก่อนหน้านี้ที่ผ่านมามีเพียงแต่ ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ (1994-95), แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ (2013-14) แล้วก็ มาเน่ (2017-18) ที่เคยทำเป็น

แน่ๆว่าสถิติพวกนี้บางทีอาจจะไม่ใช่ประเด็นหลักของ โชต้า แต่ว่ามันน่าจะทำให้เขาเต็มไปด้วยความทะยานอยาก และก็ความมุ่งมั่นสำหรับเพื่อการทำประตู ให้ได้ เพราะแม้เขาทำเป็นในแมตช์ต่อๆไป คล็อปป์ น่าจะไว้ใจให้ลงเล่นตัวจริงโดยตลอด

จะต้องบอกเลยว่า

ถึงแม้ คล็อปป์ จะมีแนวรุกให้เลือกใช้งานอีกทั้ง โชต้า, ซาลาห์ และก็ ฟีร์มีโน่ ก็ตาม แต่ว่าสำหรับ มาเน่ บอกเลยว่า ที่ปรึกษาชาวเยอรมัน

น่าจะจำเป็นต้องส่งเขาลงในสนามตั้งแต่นาทีแรก เพราะนี่เป็นผู้เล่นที่ทำประตูในเกมเจอ เชลซี มากที่สุดของชมรมปัจจุบันนี้ ศิลปะการต่อสู้ญี่ปุ่น

จากการแข่งขันชิงชัยในทุกรายการ ตัวรุกชาวเซเนกัล ตะบันไป 7 ประตูจาก 17 เกมในแมตช์ที่จะต้องพบ โดยมีแค่เพียงเกมที่เจอกับ คริสตัล พาเลซ (12 ประตู)

และก็ แอสตัน วิลล่า (8 ประตู) ที่ ซาดีโย ทำประตูได้เยอะกว่าในตอนขณะที่ทำมาหากินในอังกฤษ โดยเหตุนี้ ซาดีโย ก็เลยเป็นผู้เล่นที่ทำให้แนวรับของทีมเยี่ยมต้องระวังอย่างยิ่ง

เนื่องจากเดี๋ยวนี้ ดูเหมือนเขาจะเล่นด้วยความมั่นใจมากเพิ่มขึ้น ซึ่งสิ่งนี้แสดงออกมาให้มองเห็นจากฟอร์มในตอน 2 แมตช์แรกของฤดูกาลนี้

ถ้า สมัยก่อนดาวเตะ “นักบุญ” เซาธ์แฮมป์ตัน สามารทำให้ตนเองมีชื่อเป็นผู้ที่ทำประตูได้เสร็จในแมตช์นี้ ไม่เพียงแค่เป็นการเพิ่มสถิติความโหดในช่วงเวลาที่ดวลแค่นั้น แต่ยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับเขาเยอะขึ้นเรื่อยๆด้วย