โชว์ฟอร์มแจ่มเจ๋ง สังเวยการบาดเจ็บไปอีกราย ทำให้สมาชิกชวดช่องทาง  

โชว์ฟอร์มแจ่มเจ๋ง ศึกบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ แมตช์เดย์ที่ 29 ก่อนหน้าที่ผ่านมา เป็นการเจอกันระหว่าง เอฟเวอร์ตัน ชั้น 6 เปิดกูดิสัน พาร์ค รับการมาเยี่ยมของ เบิร์นลี่ย์ ชั้น 15 ของตาราง

คาร์โล อันเชล็อตติ ปรับกองทัพจากการที่แพ้ เชลซี 0-2 เพียงแค่ตำแหน่งเดียวส่ง ทอม เดวิส ลงไปเล่นแทน กิลฟี่ ซิกูร์ดส์สัน ส่วนแนวรุกยังให้ โดมินิค คัลเวิร์ท-ลูวิน จับคู่ล่าตาข่ายกับ ริชาร์ลิชอน

ส่วนทางฝั่ง ฌอน ไดช์ นายใหญ่ โชว์ฟอร์มแจ่มเจ๋ง ยังคงใช้ชุดเดิมจากเกมเสมอกับ อาร์เซน่อล 1-1 เป็นแกนหลัก นำโดย คริส วู้ด รวมทั้งมาเตจ์ วีดร้า กลับมาดึงถ้วย

ออกตัวเกมมาได้เพียงแค่ 3 ตอน แทบชิงขึ้นนำไปก่อน จากจังหวะที่ อเล็กซ์ อิโวบี้ ไหลถึงแม้ว่าจะ ริชาร์ลิซอน พาบอลหลุดเข้าไปอัดด้วยขวาแต่ว่ายังไปติดเซฟของ นิค โพ๊พ ปัดออกหลังเฉียด

ตอน 14 แม้กระนั้นแปลงเป็น ใช้ช่องทางแรกพังทลายประตูขึ้นนำเจ้าถิ่น 1-0 จากความบกพร่องของ ทอม เดวิส ที่เสียการครอบครองบอลก่อนที่จะ ดไวท์ แม็คนีล

จะครอสเข้าไปในกรอบไถล ไมเคิ่ล คีน เปลี่ยนเป็นตั้งให้ คริส วู้ด ซัดทิ่มมุมประตูประเภทที่ จอร์แดน พิคฟอร์ด ได้แต่ว่ายืนดูเป็นประตูที่ 6 ในช่วงฤดูกาลนี้ของศูนย์หน้าชาวนิวซีแลนด์

เจ้าบ้านแม้ว่าจะบีบคั้นมากยิ่งกว่า โชว์ฟอร์มแจ่มเจ๋ง แต่ว่าช่องทางกระจ่างยังไม่มี แถมแทบเสียเม็ดลำดับที่สอง ในตอน 22 จากบอลตอบโต้กลับเร็ว

โชว์ฟอร์มแจ่มเจ๋ง

เริ่มจาก นิค โพ๊พ เตะยาวจากหน้าประตูมาให้ คริส วู้ด เก็บบอลได้ก่อนพาบอลเข้าไปซัดไถล เบน ก็อดฟรีย์ ออกหลัง เกมของเจ้าของบ้านชอตไปเลย ประมาณ 25 มาเสียเม็ดลำดับที่สองจนได้ มาเตจ์ วีดร้า ไหลเข้ากึ่งกลางให้ ดไวท์ แม็คนีล

โชว์สเต็ปเยี่ยมด้วยการล็อคหนี อัลลัน ก่อนปั่นด้วยซ้ายนอกกรอบบอลพุ่งโค้งแทงสามเหลี่ยมเข้าไปอย่างงดงาม บุกนำห่าง 2-0 กีฬาขี่ม้า

กลุ่มเยี่ยมยิ่งเล่นยิ่งเหิมใจ แทบได้เม็ดลำดับที่สาม นำห่างในประมาณ 27 จากจังหวะเสียบอลตรงกลางของเจ้าถิ่นอีก บอลมาถึง โยฮันน์ เบิร์ก กุ๊ดมุนด์สสัน ตะบันด้วยซ้ายนอกกรอบบอลพุ่งไปชนเสาอย่างโชคร้าย

กระนั้น ประมาณ 32 มาพังทลายประตูตีไข่แตก ไล่มาเป็น 1-2 เสร็จ บอลขึ้นทางขวา เมสัน โฮลเกท ไหลให้ ทอม เดวิส

ที่ใส่ขึ้นมาก่อนครอสแรงไปหน้าประตูให้ โดมินิค คัลเวิร์ท-ลูวิน สลัดกระแทกบอลเปลี่ยนแปลงทางตุงตาข่าย เป็นประตูที่ 14 ในช่วงฤดูกาลนี้ของหัวหอกกลุ่มชาติอังกฤษ

นาที 39 “ทอฟฟี่” ได้ลุ้นจากฟรีคิกเยื้องด้านขวา อังเดร โกเมส เปิดเข้าไปในกรอบ โดมินิค คัลเวิร์ท-ลูวิน เทกขึ้นกระแทกแต่ว่ากดไม่ลงบอลบินคานออกไปแบบได้เสียว

บอลแลกเปลี่ยนกันบันเทิงใจ อีกช่วงต่อมา โต้กลับมาอีก

แอชลี่ย์ เวสต์วู้ด ไหลสั้นให้ จอช บราวน์ฮิลล์ วิ่งมาซัดสุดแรงแบบไม่จับบอลพุ่งไปชน เบน ก็อดฟรีย์ ที่ช่วยบล็อคให้กลุ่มไม่เสียประตูอีกครั้ง

นาที 43 คาร์โล อันเชล็อตติ จำต้องสลับตัวคนแรกส่ง ยกเอา เวอร์จิเนีย ผู้เฝ้าประตูดาวรุ่งเปิดฉากลงเฝ้าเสาแทน จอร์แดน พิคฟอร์ด ที่มีลักษณะอาการเจ็บ

จบครึ่งแรก เอฟเวอร์ตัน ตามหลัง เบิร์นลี่ย์ 1-2 กลับมาบู๊กันต่อในช่วงหลัง แค่เจ้าของบ้านแทบได้ลูกตีเสมอ ดูบอลสด

หลัง อันเดร โกเมส ซัดด้วยซ้ายนอกกรอบบอลพุ่งเลียดจะทิ่มเสาไกลอยู่แล้ว แต่ว่าติดปลายมือของ นิคโพ๊พ ปัดออกด้านหลังจวนเจียน

โชว์ฟอร์มแจ่มเจ๋ง

อีกนาทีต่อมา ลูก้าส์ ดีญ ครอสจากทางด้านขวามาเสาแรก โดมินิค คัลเวิร์ท-ลูวิน เทกตัวขึ้นสูงแต่ว่าจังหวะกระแทกบอลโดนไม่เต็มหัวเปลี่ยนเป็นโหม่งแป๊กออกภายหลังไป

นท. 70 เบิร์นลี่ย์ ได้เสียวบ้างโอกาสนี้ ดไวท์ แม็คนีล เปิดเตะมุมด้วยซ้าย บอลโค้งมาเสาไกลถึง เบน มี ลอยตัวกระแทกย้อนไปเสาแรกแม้กระนั้นบอลไปร่วงชนคานอย่างโชคร้าย

อีกนาทีถัดมา แนวรับเจ้าถิ่นป่วนปั่นอีกข้างหลังเกือบจะเสียเม็ดลำดับที่สามเมื่อ มาเตจ์ วีดร้า เกี่ยวบอลได้ก่อนได้ช่องซัดหน้าประตูแม้กระนั้นยังไปเข้ามือ ยกเอา เวอร์จีเนีย

นท. 81 ได้ลุ้นอีกแล้ว จากบอลสวนกลับ ดไวท์ แม็คนีล ที่วันนี้เล่นได้สะดุดตาพนันบอลทะลุให้ เจย์ โรดริเกซ ผู้เล่นสำรองหลุดเข้าไปซัดมุมแคบแม้กระนั้นยังไปประจำตัว เวอร์จีเนีย ที่ช่วยเซฟกลุ่มไว้อีกครั้ง

จบเกม เอฟเวอร์ตัน ปราชัย 1-2 ทำให้มีเพียงแค่ 46 คะแนนรั้งชั้น 6 ถัดไป โดยมีแต้มตามหลังท็อปโฟร์ซึ่งเป็นหลักที่ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ถึง 5 คะแนน ส่วน คว้าชัยได้ในรอบ 6 เกม มีเพิ่มเป็น 33 คะแนน รั้งอันดับ 15 เหนือโซนตกชั้นอยู่ 7 แต้มแล้ว

 

เอฟเวอร์ตัน (4-3-1-2) : จอร์แดน พิคฟอร์ด (ชูเอา เวอร์จิเนีย น.43) – เมสัน โฮลเกท (เชมัส โคลแมน น.73), ไมเคิ่ล คีน, เบน ก็อดฟรีย์, ลูก้าส์ ดีญ – ทอม เดวิส (โจชัว คิง น.66), อังเดร โกเมส, อัลลัน – อเล็กซ์ อิโวบี – โดมินิค คัลเวิร์ท-ลูวิน, ริชาร์ลิซอน

เบิร์นลี่ย์ (4-4-2) : นิค โพ๊พ – แม็ทธิว โลว์ตัน, เจมส์ ทาร์คอฟสกี้, เบน มี, เอริค ปีเตอร์ส – โยฮันน์ เบิร์ก กุ๊ดมุนด์สสัน (ร็อบบี้ เบรดี้ น.67), แอชลี่ย์ เวสต์วู้ด, จอช บราวน์ฮิลล์, ดไวท์ แม็คนีล – มาเตจ์ วีดร้า (เจย์ โรดริเกซ น.78), คริส วู้ด