แวดวงม้าไทย จังหวัดนครปฐม วิกฤตการแพร่ระบาดของโรคกาฬโรคแอฟริกาในม้า ในประเทศไทยยังอยู่ในตอนวิกฤต

แวดวงม้าไทย จังหวัดนครปฐม วิกฤตการแพร่ระบาดของโรคกาฬโรคแอฟริกาในม้า ในประเทศไทยยังอยู่ในตอนวิกฤต โดยกลุ่มสัตวแพทย์ที่ลงพื้นที่ให้การช่วยเหลือรับเหตุการณ์น่าห่วง และก็ยังร้ายแรงได้อีก

โดยในเวลานี้กระทบม้าทุกแวดวง ถึงแม้ว่าจะม้าที่ทำเซรุ่มเริ่มมีติดเชื้อแล้ว ภายหลังจากมีข่าวสารประเด็นการตายของม้าจำนวนไม่ใช่น้อยในพื้นที่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา เมื่อราวมี.ค. ถึงม.ย.ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา

ซึ่งผลของการตรวจเลือดในห้องทดลองการันตีว่า สถานที่การที่ดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้วเป็นการแพร่ระบาดของโรคกาฬโรคแอฟริกาในม้า ซึ่งเป็นโรคอุบัติใหม่ที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในประเทศไทย

โดยคาดว่าน่าจะมีการแพร่ระบาดจาการนำเข้าม้าลายในประเทศแถบแอฟริกาใต้เข้ามาในประเทศไทย แล้วก็มีแมลงดูดเลือดเป็นพาหะสำหรับการแพร่ระบาดอย่างมาก หรือที่เรียกว่า ห่าลงในม้า

โดยปัจจุบันนี้มีม้าที่ได้รับเชื้อรวมทั้งตายไปแล้วไม่น้อยกว่า 500 ตัว ซึ่งพื้นที่ระบาดอย่างมากใน 6 จังหวัดกำลังเริ่มจะมีการแพร่อย่างเร็วไปในพื้นที่ต่างๆในประเทศ โดยจะมีคลิปของผู้ครอบครองม้า

ออกมาโพสต์ลงโซเชียลถึงความน่าสะพรึงกลัวในความทรมาทรกรรมของม้าที่ใกล้จะตายไปเฉพาะหน้าภายหลังรับเชื้อไปราว 24 ถึง 48 ชั่วโมง แม้กระนั้นข่าวสารที่ถูกเสนอออกไปยังเหมือนกับเหตุการณ์ดังกล่าว

ถึงมาแล้วจะไม่เป็นที่รู้มากนักสำหรับประชาชนทั่วๆไป ซึ่งโมเดลการแพร่ระบาดนั้นมีความเหมือนกับการแพร่ของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่กำลังเกิดขึ้นพร้อมในตอนนี้ในหลายๆหัวข้อ ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นกระตุ้นแล้ว

ส่งผลให้มีการเกิดวิกฤตครั้งใหญ่ในแวดวงม้าในประเทศไทย และก็ยังไม่มีคำตอบว่าจะสามารถทำให้แวดวงม้ากลับมาได้ตามเดิมอีกทีเมื่อใด เนื่องมาจากม้ามีชื่อสายพันธุ์ดี ดีกรีแชมป์แล้ว

ก็ได้รับการยินยอมรับว่ามีสายพันธุ์คุณภาพดีนั้นได้ตายลงไปไม่น้อยเลยทีเดียว แม้กระนั้นสามัญชนนั้นยังไม่รู้จักถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างแท้จริงมากสักเท่าไรนัก ผศ.สพ.ญ.อารีย์ ไหลกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสัตว์

มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กำแพงแสน เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังที่กล่าวมาข้างต้นเริ่มมีความผิดธรรมดาราวมีนาคม เมื่อมีม้าในคอกที่อำเภอปากช่อง จังหวัดราชสีมา มีการตาย 1 ตัว แม้กระนั้นไม่นานตัวที่ 2

ก็ตายโดยมีลักษณะอาการลักษณะเช่นเดียวกัน โดยมีลักษณะอาการหอบ ตาแดง ขมับบวม และก็มีม้าอีกหลายตัวได้ตายในเวลาอันเร็วตามมาซึ่งกำเนิดเป็นโรคระบาดแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน กีฬาขี่ม้า

แวดวงม้าไทย

กระทบม้าทุกแวดวง ถึงแม้ว่าจะม้าที่ทำเซรุ่มเริ่มมีติดเชื้อแล้ว

แวดวงม้าไทย ซึ่งได้มีการนำเลือดไปตรวจในห้องทดลองกระทั่งรับรองได้ว่า โรคระบาดที่เกิดขึ้นเป็น โรคกาฬโรคแอฟริกาในม้า หรือจะเรียกสั้นๆว่า เอเอทเอส ซึ่งเป็นโรครุนแรงที่เป็นโรคประจำถิ่นในประเทศแถบทวีปแอฟริกา

โดยยิ่งไปกว่านั้นในประเทศแอฟริกาใต้ ซึ่งสัตว์ที่ไวต่อการได้รับเชื้อหมายถึงม้า ลา ล่อ ม้าลาย รวมทั้งอูฐ โดยมีแมลงดูดเลือดจำพวก ลิ้น เป็นพาหะสำหรับเพื่อการนำไปแพร่ชื้อ ซึ่งเมื่อมีการตรวจทานไทม์ไลน์

พบว่า สัตว์ที่เข้าเกณฑ์เป็นการนำเข้าม้าลายมาจากประเทศในทวีปแอฟริกาใต้และก็ประเทศนามิเบีย หลายคราว ซึ่งเป็นสาเหตุสำหรับเพื่อการแพร่ระบาดในประเทศไทย โดยหนแรกที่เจอมีการแพร่ระบาดเป็นก.พ.

จนกระทั่งมาถึงพฤษภาคม เมื่อถึงเวลานี้มีม้าที่ได้รับเชื้อและก็ตายไปแล้ว 500 กว่าตัว รวมทั้งยังมีตายสม่ำเสมอ ซึ่งหากจะเรียกแบบคนสมัยเก่าเป็น ห่าลง ซึ่งทำให้ม้าตายเยอะๆ โดยเชื้อไวรัสจำพวกนี้

มีความร้ายแรงมากมาย ด้วยเหตุว่าเมื่อม้าได้รับเชื้อเข้าไป ด้านใน 24-48 ชั่วโมงโดยมากจะตายโดยทันที แล้วก็จะตายอย่างทรมานเป็น การไปทำให้ระบบหายใจและก็ระบบหัวใจล้มเหลว โดยมีอัตราการตาย 95 เปอร์เซ็นต์

ผู้ช่วยศาสตราจารย์สแพทย์หญิงอารีย์ พูดว่า เหตุการณ์การแพร่ระบาดของโรคในม้านั้นคล้ายกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่กำลังเกิดขึ้นในคน ซึ่งม้าในประเทศไทยนั้นนับว่ากำเนิดวิกฤตหนัก

เนื่องจากว่ารับแรงจากทั้งยัง 2 โรคระบาดไปพร้อม ซึ่งในเชื้อไวรัสโควิด-19 นั้นจะแพร่ขึ้นรถคัดเลือกหลั่ง แต่ว่าใน เอเอทเอส นั้น แพร่โดยแมลงดูดเลือดรวมทั้งมีสถานการณ์ เกิดขึ้นแล้วด้วยเหมือนกัน

ซึ่งแมลงดูดเลือดเพียงแค่ตัวเดียวก็สามารถแพร่ระบาดให้ม้าตายได้ ซึ่งระยะนี้ถือได้ว่าตอนที่พีกที่สุดตอนหนึ่งของการแพร่ระบาดและก็ยังสามารถพีกได้มากกว่านี้อีก เป็นวิกฤตครั้งใหญ่ที่เมืองไทยไม่เคยพบมาก่อน

“สิ่งที่พวกเรากำลังทำเวลานี้ เป็นกลุ่มสัตวแพทย์ หรือกรุ๊ปแพทย์ม้า ได้ลงพื้นที่ไปในพื้นที่ที่แพร่ระบาดเพื่อรักษาชีวิตม้าให้ได้มากที่สุด ในพื้นที่แพร่ระบาด โดยแบ่งวงรัศมี ในพื้นที่แพร่ระบาด 20 กิโมเมตร

พื้นที่คุ้มครอง 50 กม. และก็พื้นที่เสี่ยง 100 กิโล ซึ่งผลพวงเป็นวงกว้างซึ่งการถึงแก่กรรมของม้าตายอย่างดิ้นรนทำให้กระเทือนใจของผู้เลี้ยงแล้วก็ราษฎรที่มองเห็น รวมทั้งม้าบางตัวเป็นม้าที่ดี มีอาชีพในตนเอง

อีกทั้งมีดีกรีสุดยอด ม้าที่มีสายพันธุ์ดี ม้าที่เป็นสายพันธุ์แข่งขัน เหล่านี้รับเชื้อไปแล้ว แต่ว่าหากพวกเราจะนับแยกเป็นชนิดและประเภทเป็นม้าทหาร ม้าตำรวจ ม้าในสภากาชาดไทย ช่วงนี้มีการได้รับเชื้อไปแล้ว

ถ้าเกิดม้าฝูงนี้ตายหมดพวกเราบางครั้งก็อาจจะประสบพบเจอกับปัญหาสำหรับเพื่อการผลิตเซรุ่มสำหรับในการแก้พิษงูในประเทศ ซึ่งแม้จะมีการเพาะเลี้ยงขึ้นมาใหม่จำต้องใช้เวลาไม่น้อย ม้างานบรรพชา ม้าริมทะเล

ฝูงคนสถานที่ทำงานกับม้า ผู้สร้างของกินให้ม้า เหล่านี้กระทบหมด เนื่องจากว่าถ้าเกิดม้าตายแล้วฝูงคนเหล่านี้ก็จะไม่มีอาชีพไปด้วย” ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสัตว์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กำแพงแสน กล่าว

ผศ.สแพทย์หญิงอารีย์ กล่าวอีกว่า ในตอนนี้สิ่งที่ทำมาจากกลุ่มสัตวแพทย์เป็น การนำวัคซีนลงไปฉีดให้แก่ม้าในพื้นที่ระบาดรวมทั้งพื้นที่คุ้มครอง ซึ่งวัคซีนยังน้อยเกินไป เพราะว่าม้าที่มีการสมัครสมาชิก

และก็จดทะเบียนไว้มีอยู่ 1.2 หมื่นตัว มีวัคซีนชุดแรกมาแล้ว 4 พันโด้ส โดยเมื่อฉีดไปแล้ว จำเป็นต้องคอย 28 วันเพื่อการผลิตภูเขาไม่เพื่อกำเนิดซึ่งกรุ๊ปที่ยังได้รับวัคซีน สิ่งที่จำเป็นต้องทำเป็นการกางมุ้งให้ม้า

เพื่อคุ้มครองปกป้องแมลงดูดเลือดให้ม้า ซึ่งเป็นกรรมวิธีที่เยี่ยมที่สุด ในพื้นฐานในช่วงเวลานี้ แม้กระนั้นสิ่งที่ยากเป็นกรุ๊ปราษฎรที่เลี้ยงม้า ลา ล่อ ม้าลาย ที่ยังไม่รู้จักข่าวสารก็ยังไม่รู้เรื่องบางรายก็ไม่เชื่อ ดูบอลสด

แวดวงม้าไทย

แวดวงม้าไทย ถ้าหากได้รับเชื้อก็ยังจะเป็นพาหะให้แก่แมลงดูดเลือดได้อีก ซึ่งในขณะนี้ออสเตรเลีย แล้วก็เมืองจีน ได้ทำปกป้องในประเทศของตนเองแล้วโดยการวิเคราะห์เลือดแล้วก็เตรีมการแล้ว ด้วยเหตุว่าข้อมูลแมลงดูดเลือด

ในทวีปแอฟริกา สามารถบินโดยผ่านลมไปได้ถึง 700 กิโล ซึ่งถ้าเมืองไทยมีการปลดล็อกโควิด-19 แล้วก็มีการเปลี่ยนที่สัตว์ไปในพื้นที่อื่น หรือแมลงดูดเลือดเกาะสัตว์ยกตัวอย่างเช่น วัว ควาย รวมทั้งติดรถยนต์ออกไป

จะมีผลให้การควบคุมเกิดขึ้นได้ยากมากมาย ซึ่งถ้าหากคุมไม่อยู่จัดว่าจะวิกฤตหนักและก็ม้าจากเมืองไทยจะถูกจารึกว่ามีการฝังเชื้อไวรัส เอเอทเอส จี  เอาไว้ที่เอเซียอาคเนย์ ซึ่งผู้เลี้ยงที่ยังอยู่ห่างพื้นที่ระบาด

จำต้องตื่นตัวพื้นฐานจะต้องกางมุ้งและก็กำจัดแมลงให้ได้มากที่สุดก่อนในพื้นฐาน ด้าน นายเพิ่มพูน เพียรประสพ ผู้ครอบครองฟาร์มแล้วก็กลุ่ม พูดว่า สำหรับโรคระบาดที่กำลังกำเนิดช่วงนี้สิ่งที่กลัวที่สุด

เป็นกลัวโรคจะมาถึงพื้นที่คอกที่เลี้ยง เนื่องจากว่าโรคนี้ติดเชื้อโรคง่ายรวมทั้งเป็นแล้วตายเร็ว มีอัตราการรอคอยดน้อยมาก จากม้า 500 กว่าตัวที่ตาย มีรอดเพียงแค่ 2 ตัว ซึ่งหัวข้อนี้เกิดเรื่องใหญ่มาก ในแวดวงม้าไทย

ตัวเองได้ติดตามข้อมูลที่ได้มาจากประเทศกรุ๊ปแอฟริกาที่เป็นแหล่งของเชื้อไวรัสจำพวกนี้ และก็ได้เอามาประยุกต์สำหรับการเลี้ยงม้า โดยยิ่งไปกว่านั้นการกางมุ้งให้ม้าโดยกางอีกทั้งโรงเลี้ยงและก็ลานฝึก

รวมทั้งมีการจัดแจงทำลายแมลงรอบๆ การทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ของแมลง ซึ่งประเทศของพวกเราเป็นประเทศเขตร้อนเปียกชื้น มีฝนตกบ่อยครั้งอัตราการเกิดของแมลงก็มีมากมาย และไม่ใช่แค่เพียงลิ้น

ที่มีอยู่ยังมี ลิ้นจำพวกต่างๆเหลือบ ไร และยุงที่ยังดูดเลือดม้าได้ ยิ่งตอนที่มีลมพายุหน้าร้อนยิ่งเครียดเนื่องจากว่าเมื่อใดก็ตามกำเนิดลมพายุลมแรง

พวกเราจะพบว่ามีจุดของการแพร่ระบาดใหม่ขึ้นในอีก 3-5 วันแค่นั้น อากาศก็ส่งผลมากมายด้วย ขี่ม้าต้องใช้ใจ