เดี้ยงไปเรียบร้อย ทำให้แฟนบอลได้ยินแก้มปริ เมื่อโชว์ฟอร์มยอดเยี่ยม 

เดี้ยงไปเรียบร้อย ฟอร์มในแมตช์นี้จำต้องบอกเลยว่า 11 ตัวจริง “เดอะ เร้ดส์” เล่นได้อย่างดียิ่ง ทุกคนสามารถทำผลงานได้สะดุดตาราวกับที่เคยทำ

แล้วก็ยังเป็นการเรียกความมั่นใจสำหรับแนวรุกของกลุ่ม เดี้ยงไปเรียบร้อย เนื่องจากในตอนนี้พวกเขาปลดล็อกฟอร์มฝืดในเกมลีกได้แล้ว ดูเหมือนกับว่า

• เกมรุกคืนความมั่นใจ

สิ่งที่สาวก “เดอะ ค็อป” ต้องการให้เยอะที่สุดในตอนนี้ก็คือการคืนฟอร์มเกมรุกที่แสนดุเดือดของ “ลิเวอร์พูล” และก็แมตช์เฉือนคอไก่ สามผสาน “หิน เหล็ก ไฟ” แสดงให้เห็นแล้วว่าพวกเขากลับมาสู่ฟอร์มที่สุดเฉียบคมอีกรอบ

จังหวะที่ได้ประตูแรกต้องบอกเลยว่า ซาดิโอ มาเน่ ทำเป็นดีเยี่ยมทั้งยังจังหวะการวิ่งไปเล่นบอล แล้วก็การผ่านเข้ากึ่งกลางประตูที่จุดเกรงอกเกรงใจระหว่าง เอริก ดายเออร์ กับ อูโก้ โยริส

ทำให้ ฟีร์มีโน่ ได้ยิงแบบสบายๆซึ่งนับว่าเป็นจุดเปลี่ยนแปลงของเกมอย่างแท้จริง นอกจากนั้น มาเน่ ยังคงใช้ความเร็วสำหรับในการป่วนปั่นเกมรับของเจ้าของบ้านได้ตลอด

ที่สำคัญเขายังมีความขยัน แล้วก็พยายามวิ่งหาพื้นที่เพื่อจะหาโอกาสสำหรับการทำประตูกระทั่งทำเสร็จจากจังหวะที่เปิดบอลที่เฉียบคมของ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ในเวลาที่ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ จะต้องบอกว่าถูกชะตา

จริงๆเวลาเจอะกันครั้งไหร่มักจะงัดฟอร์มเก่งออกมาได้เสมอ ในเกมนี้ “บ็อบบี้” มีส่วนในการป่วนปั่น เกมรับของเจ้าบ้านตลอด

รวมทั้งสร้างโอกาสให้กับสหายร่วมกลุ่มได้โดยตลอด สถิติปัจจุบันนี้ จอมบุกแซมบ้า ซัดไปแล้ว 5 ประตูจาก 6 เกมลีกหลังสุดที่ดวล

สำหรับ ซาลาห์ เห็นได้ชัดเรื่องความมั่นใจที่เบาๆคืนกลับมา โดยเฉพาะในจังหวะจบสกอร์ที่เฉียบคม รวมทั้งเต็มไปด้วยสมรรถนะ แม้ว่าจะถูก “วีเออาร์” ยึดไปตาม แม้กระนั้นจังหวะการยิงแบบนี้นับว่าเป็นสัญญาณที่ดีที่ได้มองเห็น “บังโม” เชื่อถือในการทำประตู

• ปัญหาบาดเจ็บยังคุกคาม

เรื่องที่ คล็อปป์ ไม่สบายใจสูงที่สุดก็เกิดขึ้นจนได้มันก็คือปัญหาผู้เล่นเจ็บ โดยเฉพาะแนวรับที่ปัจจุบันนี้ก็ออกจะพิการ เหลือกองหลังตัวกลาง

เพียงแค่ผู้เดียว ซึ่งก็คือ โฌแอล มาติป แม้กระนั้นสภาพร่างกายก็เป็นพวกจำพวกกองหลังกระดูกยูงพร้อมเจ็บได้ตลอดเวลา ก่อนเกมแฟนบอล “ลิเวอร์พูล” จะต้องมาพบข่าวไม่ดีเมื่อ ฟาบินโญ่ มีปัญหาเจ็บ

ถึงแม้ คล็อปป์ รับรองมิดฟิลด์ชาวบราสิเลียน เจ็บกล้ามเนื้อน้อย แต่ต้องเน้นย้ำปลอดภัยไว้ก่อนก็เลยเลือกดร็อปเขา แล้วก็ใช้งาน จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ยืนกองหลังตัวกลาง ร่วมกับ มาติป

ตลอดครึ่งแรก มาติป กับ “เฮนโด้” จัดว่าประสานงานกันได้ดียอด สามารถจัดการกับ แฮร์รี่ เคน กับ ซน ฮึง-มิน ได้อย่างมีคุณภาพ กีฬาขี่ม้า

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรายของแนวรับชาวแคเมอรูน ที่จัดแจงกับ “อาซน” จนอยู่มือ ความเร็ว แล้วก็การอ่านเกมของเขา ช่วยทำให้ สตาร์ชาวเกาหลีใต้ ไม่สามารถที่จะแงะทีเด็ดมันก็คือใช้สปีดเร็วกวานเกลื่อนกลาดได้

จะว่าไปแล้วเว้นเสียแต่จังหวะที่หลุดเข้าไปยิงในตอนต้นเกม

แต่ว่า “วีเออาร์” บอกว่าเป็นลูกล้ำหน้า นอกจากนั้น ซน ฮึง-มิ แทบมิได้แผลงฤทธิ์ให้ อลีสซง เบ็คเกอร์ กับแบ็กโฟร์ “เดอะ เร้ดส์” ต้องพบงานหนักอะไรเลย

แต่เวลาพักครึ่ง คล็อปป์ จำเป็นจะต้องถอด มาติป ออกเพราะเหตุว่ามีปัญหาเจ็บ (อีกแล้ว) ทำให้จำใจใช้งาน นาธาเนียล ฟิลลิปส์ สำหรับเพื่อการสู้กับ ซน

ซึ่งในความโชคร้ายก็มีดวงดี เพราะว่า ต้องถอด ที่มีปัญหาเจ็บเหมือนกัน ทำให้ ฟิลลิปส์ ไม่ต้องพบแรงกดดันเท่าไรนัก

สำหรับผลงานของ ฟิลลิปส์ ในเกมนี้ ก็จำเป็นต้องกล่าวว่าสอบได้ แต่ว่ายังไม่ดีนัก เนื่องจากนักฟุตบอลมีปัญหาในหัวข้อการเข้าบอลที่ค่อนข้างจะพรวดพราด รวมทั้งอ่านเกมยังไม่ขาด

นี่แม้พบกับพวกแผงหน้าฝีเท้าชัดเจน หรือพวกนักฟุตบอลพร้อมล้มในจุดโทษ งานนี้ “เดอะ เร้ดส์” ได้เสียจุดโทษแหงๆฉะนั้นในเกมเจอ เวสต์แฮม ยูไนต็ด จะต้องลุ้นให้ ฟาบินโญ่ กับ มาติป ฟิตบริบูรณ์

แต่ว่าสำหรับรายข้างหลังอาจลุ้นหนักเลยทีเดียว ด้วยเหตุว่า คล็อปป์ ออกมาบอกว่าอาการออกจะ “ร้ายแรง” งานนี้บางทีอาจจะได้มองเห็น เฮนเดอร์สัน จับคู่ ฟิลลิปส์ อีกรอบก็ได้

• สเปอร์ส เครียดหนัก 

หนึ่งในเหตุผลที่จำเป็นต้องกล่าวว่า สเปอร์ส ทำผลงานในเกมรุกได้ไม่ค่อยจัดจ้าก็มาจากการที่ แฮร์รี่ มีปัญหาเจ็บตั้งแต่ตอนครึ่งแรก ดูบอลสด

จนกว่าจะต้องถูกถอดออกในเวลาพักครึ่ง ซึ่งแน่ๆว่านี่เป็นสิ่งที่สาวก “ไก่เดือยทอง” กลุ้มอกกลุ้มใจมากยิ่งกว่าการที่พวกเขาแพ้ “ลิเวอร์พูล” ซะอีก กัปตันกลุ่มชาติอังกฤษ โดนเข้าปะทะหนักตลอดครึ่งแรก ทำให้มีปัญหาเจ็บรอบๆข้อเท้า

แม้ว่าจะพากเพียรฝ่าฝืนเล่นถัดไป แม้กระนั้นเห็นได้ชัดว่า เคน ไม่สามารถเล่นได้เต็มที่ ทำให้ผลงานของเขาในตอน 45 นาทีแรกออกจะน่าผิดหวังอย่างยิ่งจริงๆ

สำหรับในขณะนี้ โชเซ่ มูรินโญ่ คงจะได้แต่ว่าภาวนา รวมทั้งลุ้นว่า แนวรุกตัวเก่งเลือดผู้ดี จะมีลักษณะเจ็บไม่ร้ายแรง เพราะว่าแม้ เคน จำต้องพักยาว ช่องทางที่พวกเขาจะทำชั้นติดท็อปโฟร์ ในช่วงฤดูกาลนี้ ออกจะน่าห่วงแน่ๆ

ถึง “เฮียมู” สามารถปั่น สเปอร์ส ให้เป็นกลุ่มที่มีเกมรุกอันตราย และก็ทำประตูได้โดยไม่มี เคน ก็ตาม แม้กระนั้นการขาด หัวหอกวัย 27 ไปย่อมทำให้เกมบุกของพวกเขาขาดความอันตรายลงไปเยอะแยะอย่างยิ่งจริงๆ ซึ่งสิ่งนี้บ่งบอกถึงแล้วในเกมแพ้ หงส์แดง