สื่อตีข่าวสาร จัดเตรียมปิดดีลซิวภายหลังดาวรุ่ง 

สื่อตีข่าวสาร อาร์เซน่อล สมาคมดังของเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ จัดแจงที่จะประกาศจับตัวได้ โอมาร์ เรคิก ปราการหลังดาวรุ่งของ แฮร์ธ่า เบอร์ลิน มาร่วมทัพข้างในสัปดาห์นี้

ส่งผลให้เขาจะเป็นการเสริมกองทัพรายแรกของ “ไอ้ปืนใหญ่” สื่อตีข่าวสาร ในตลาดการซื้อ-ขายนักฟุตบอล รอบ 2 ตามรายงานของ บิลด์ สื่อชั้นหนึ่งของสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี

ถึงจะยังไม่เคยได้เล่นให้กลุ่มชุดใหญ่ เลย แม้กระนั้นจอมบุกวัย 19 ปีนับว่าเป็นผู้ที่ได้รับการเฝ้ามองมากคนหนึ่งด้านในกองทัพ “หญิงชรา” จนกระทั่งมีชื่อ

โดยที่ อาร์เซน่อล แอบพูดจาอย่างลับๆเพื่อเอาเขามาร่วมทัพ แถมเขาก็ได้ซ้อมกับกลุ่มของผู้จัดการทีมฟุตบอล มิเกล อาร์เตต้า ที่ผ่านมาด้วย ทางแฟนๆเห็นว่า

ดังนี้ เป็นที่มั่นใจว่า แพร์ แมร์เตซัคเกอร์ สมัยก่อนแนวรับคนมีชื่อเสียงชาวเยอรมันที่ในขณะนี้เป็นผู้ฝึกสอนให้อะคาเดมี่ของ อาร์เซน่อล มีส่วนสำคัญในการทำให้ดีลนี้กำลังจะสิ้นสุดลงด้วยดี

โดยที่ อาร์เซน่อล จะเสียเงินเสียทองเพียงแค่ราว 600,000 ยูโร (ราวๆ 22.20 ล้านบาท) เพื่อเป็นค่าจ้างของตัวรุกชาวตูนิเซีย รวมทั้งเขาก็รับการตรวจสุขภาพไปแล้วด้วย

แม้กระนั้น เป็นที่เชื่อกันว่า อาร์เซน่อล จะให้เขาไปเล่นกับกลุ่มรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีกลายแค่นั้น ก็แค่อาจจะได้รับจังหวะให้ฝึกกับกลุ่มชุดใหญ่โดยตลอด หากว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นกำลังหลักของกลุ่มในอนาคต

สื่อตีข่าวสาร

ศึกทรูพรีเมียร์ลีก เปิดหัวต้นปี 64

จากคำกล่าวของสาวกในแต่ละกลุ่มที่ตั้งใจเชียร์กลุ่มรักอย่างสาวกหงส์ว่า “หงส์แดงจะแพ้กลุ่มอื่นได้แต่จะไม่ไม่มีทางแพ้แมนยูฯ”

เรียกว่าสองกลุ่มนื้ นับว่าเป็นคู่ปรับมาจากชาติปางไหนไม่เคยรู้ แม้กระนั้นเมื่อทั้งคู่กลุ่มโคจรมาปะทะกัน ก็ไม่มีทางมีใครยอมผู้ใดกันแน่!

การแข่งฟุตบอลกันที่จะเกิดขึ้นในช่วงกลางเดือนม.ค.ที่จะถึงนี้ถือว่าเป็นขณะที่เหมาะอย่างยิ่งที่สุดและก็พวกเราได้เก็บรวบรวมสถิติน่าสนใจก่อนเกม เพื่อเพิ่มอรรถรสในการรับดูการถ่ายทอดสดคราวนี้

– สถิติการเจอกันทั้งหมด 204 ครั้ง แมนฯยูไนเต็ด ผลงานเหนือกว่า ชนะ 80 รอบ ลิเวอร์พูล ชนะ 67 นัด เสมอกันไป 57 กีฬาขี่ม้า

– 2 ฤดูกาลหลังสุดที่เจอกันในพรีเมียร์ลีก 4 นัด เป็นฝั่งหงส์แดงที่ไร้พ่ายเป็นฝ่ายเอาชนะไปได้ 2 ที่แอนฟิลด์ของตัวเอง และออกไปเสมอกับปิศาจแดงที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด 2 รอบ

– ใน 2 ครั้งที่เจอกัน เมื่อซีซั่นก่อน เกมแรกที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2019 เสมอกันไป 1-1 มาร์คัส แรชฟอร์ด ยิงให้ยูไนเต็ดนำก่อนในครึ่งแรก

ก่อนที่ อดัม ลัลลาน่า ตีเสมอให้ลิเวอร์พูลก่อนจบเกม 5 นาที อีกตอนที่แอนฟิลด์เมื่อ 19 มกราคม 2020 ลิเวอร์พูลคว้าชัย 2-0 จากประตูของ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์

– เช็คผลงาน ณ ปัจจุบัน ลิเวอร์พูล กำลังฟอร์มหลุดไม่ชนะมาแล้ว 3 ติดต่อกัน โดยที่เสมอ เวสต์บรอมวิช 1-1 ตามด้วยเสมอ นิวคาสเซิล 0-0

และล่าสุดบุกไปแพ้ที่เซนต์ แมร์รี่ของ เซาแธมป์ตัน 1-0 แต่ยังนำจ่าฝูงด้วยผลงานรวม 17 นัด ชนะ 9 เสมอ 6 แพ้ 2 มี 33 คะแนน

– แมนฯยูไนเต็ด ฟอร์มกำลังเข้าฝัก 4 หลังเก็บ 10 คะแนนจากการถล่ม ลีดส์ ยูไนเต็ด 6-2,เสมอ เลสเตอร์ 2-2,ชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน 1-0

และชนะ แอสตัน วิลล่า 2-1 ผลงานรวม 16 ชนะ 10 เสมอ 3 แพ้ 3 มี 33 คะแนนเท่ากับ ลิเวอร์พูล แต่อยู่รองจ่าฝูงเนื่องจากประตูได้เสียเป็นรอง 7 ลูก

– คีย์สำคัญคือทีมปิศาจแดงมีเกมตกค้างเหลือ 1 มาตั้งแต่ เปิดซีซั่น โดยมีคิวเตะไปเยือน เบิร์นลี่ย์ ในวันอังคารที่ 12 มกราคมนี้ ถ้าเก็บแต้มได้ไม่ว่าจะ 1 หรือ 3 จะแซงหน้าหงส์แดงขึ้นไปรั้งจ่าฝูงได้ทันทีก่อนหน้าที่จะลงทำศึกแดงเดือด 5 วัน

ต้องมาลุ้นกันว่าแชมป์เก่า “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ของบิ๊กบอสเจอร์เก้น คล็อปป์ จะหยุดความร้อนแรงของลูกทีมโอเล่ กุนนาร์ โซลชา “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้หรือไม่? ดูบอลสด