รับบทวีรบุรุษ โชว์ผลงานคัมแบ็กกลับมาคว้าชัยได้เสร็จหลังสกอร์ตามหลัง

รับบทวีรบุรุษ บอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ แมตช์เดย์ที่ 33 เจ้าของบ้าน เลสเตอร์ ซิตี้ อันดับ 3 ฟอร์มในลีกปัจจุบันไลอัด เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน 3-0

นัดหมายนี้ยังได้เล่นใน คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม รับการมาเยี่ยมของ คริสตัล พาเลซ อันดับ 13 ซึ่งแพ้มาสองเกมติด ปัจจุบันพ่ายแพ้เหลวให้ เชลซี คาบ้าน 1-4

เบรนแดน ร็อดเจอร์ส นายใหญ่ของ “จิ้งจอกสยาม” จะต้องเก็บชัยให้ได้เพื่อหนี “สิงห์บลูส์” ชั้น 4 ที่ไล่จักจี้มาเหลือแต้มเดียว คราวหนึ่งเคยร่ายมนตร์

เกมนี้ภาวะกลุ่ม ออกจะพร้อม เจมี่ ยืนล่าตาข่ายกับ เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ ที่กำลังรุนแรง โดยมี เจมส์ แมดดิสัน ปั้นเกมอยู่ข้างหลัง

ส่วน “ดิ อีเกิ้ลส์” ของ รอย ฮ็อดจ์สัน ฟอร์มในลีกไม่ดีเท่าใดนัก 5 นัดหมายปัจจุบันชนะเพียงแค่เกมเดียว เกมนี้ฝากความมุ่งหวังไล่ล่าประตูไว้ที่ คริสติย็อง เบนเตเก้ แล้วก็วิลฟรีด ซาฮา

เริ่มเกมครึ่งแรก เป็นฝั่ง “จิ้งจอกสยาม” ที่เปิดเกมรุกเข้าใส่ ตอนที่ 10 ติโมธี คาสตาญ ครอสมาหน้าประตู เคเลชี่ พากเพียรเล่นบอล แต่ว่าเลยไปถึง เจมี่ วาร์ดี้ วิ่งมาซัดด้วยขวาสุดแรงเกิดบอลพุ่งหลุดกรอบไปแบบได้เสียว

รับบทวีรบุรุษ

แต่ ช่วง 12 แปลงเป็น คริสตัล พาเลซ ที่สวนขึ้นมาแล้วได้ทางออกนำไปก่อน 1-0 จากจังหวะที่ คริสติย็อง เบนเตเก้ เข้าไปแย่งบอลจากข้างหลังของ ตีเลมันน์ ผู้ตัดสินไม่ว่าอะไรปลดปล่อยให้เล่นต่อ

บอลมาถึง เอเบเรชี่ เอเซ่ พาบอลขึ้นมาก่อนแทงทะลุช่องให้ วิลฟรีด ซาฮา หลุดกับล้ำหน้าเข้าไปซัดด้วยขวาติดปลายมือ คาสเปอร์ ชไมเคิ่ล เข้าประตุไป

นาที 19 ยูริ ตีเลมันส์ เรียกฟรีคิกได้นอกกรอบข้างหลังโดน ไยโร รีเดอวัลด์ ทำฟาวล์ก่อนโดนใบเหลืองแรกของเกม แล้วก็เป็น ตีเลมันน์ ที่ปั่นผ่านกำแพงแต่ว่าบอลยังค่อยไปเข้ามือ บิเซนเต้ ไกวต้า

บอลออกจะทันกัน เจ้าถิ่น เลสเตอร์ ช่องทางเข้าทำยังมีไม่มากมาย ช่วง 34 ซากลาร์ โซยุนยก เก็บตกจากลูกคอนเนอร์ก่อนที่จะอัดด้วยขวาแต่ว่าบอลยังสูงโผบินโด่งออกไป

ช่วง 38 กองทัพหมาจิ้งจอกได้บอลหลุดขึ้นมาทางด้านซ้าย รับบทวีรบุรุษ แมดดิสัน ตวัดจากเส้นหลังมาให้ เคเลชี่ แม้กระนั้นบอลย้อนไป

ทำให้จะต้องจิ้มคืนให้ วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้ วิ่งมาแปอัดเข้าไปบอลพุ่งตรงกรอบแบบได้ลุ้นแม้กระนั้นยังไม่ผ่าน แพทริค ฟาน อานโฮลท์ ที่บล็อคไว้เป็นคนท้ายที่สุด

ตอนทดเจ็บ ประมาณ 45+1 จอนนี่ อีแวนส์ วางบอลยาวให้ เจมส์ แมดดิสัน หลุดเข้าไปซัดมุมแคบแม้กระนั้นยิงไม่ดีบอลผ่านหน้าปากประตูไป กีฬาขี่ม้า

ก่อนผู้ตัดสินจะเช็กสัญญาณจากห้อง วีเออาร์ ถึงความน่าจะเป็นที่เจ้าถิ่นจะได้จุดลูกโทษ จากจังหวะที่ โจเอล วอร์ด มีการปะทะกับ วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้ ในกรอบจุดโทษ แม้กระนั้นไม่มีอะไรรับรองไม่เป็นจุดลูกโทษ

 

จบครึ่งแรก ตามหลัง 0-1 “จิ้งจอกสยาม” มาได้ประตูตีเสมอ 1-1 เสร็จ

จากจังหวะเซ็ตบอลมาจากดินแดนหลังให้ ยูริ ตีเลมันน์ ตักบอลเข้าไปในจุดโทษถึง อิเฮียนาโช่ ก่อนจ่ายคืนหลังให้ ติโมธี คาสตาญ

เพิ่มมซัดด้วยซ้ายทิ่มตาข่ายเข้าไปอย่างงดงาม แม้วีเออาร์จะเช็กความน่าจะเป็นที่ อิเฮียนาโช่ จะทำแฮนด์บอลก่อนแต่ว่าการันตีให้ประตู

ประมาณ 55 พาเลซ ทิ้งโอกาสทอง ที่จะขึ้นนำอีกทีหลัง เอเบเรชี่ เอเซ่ แทงบอลให้ ไยโร รีเดอวัลด์ หลุดกับล้ำหน้าเข้าไปดวลผู้เดียวกับ ชไมเคิ่ล

แม้กระนั้นวินิจฉัยจ่ายให้ คริสติย็อง เบนเตเก้ ที่กำลังอ้าเท้ายิง แต่ทว่าโดน จอนนี่ อีแวนส์ ที่วิ่งตามมาพุ่งสไลด์สกัดบอลรอดอันตรายจำพวกเฉียด

ประมาณ 64 ลุค โธมัส จ่ายให้ เจมี่ เลี้ยงแปลกรับพาเลซ เข้าไปอัดด้วยขวามุมแคบ แม้กระนั้นบอลยังไม่ผ่าน บิเซนเต้ ไกวต้า ปิดมุมรับไว้ได้

อีก 5 ครั้งต่อมา “ดิ อีเกิ้ลส์” ได้ลุ้นเช่นเดียวกัน บอลตลอดจากลูกเตะมุมเอเบเรชี่ เอเซ่ เปิดบอลแม่นมาให้ คริสติย็อง เบนเตเก้ สลัดตัวเกาะติดขึ้นกระแทกโดดเดี่ยวๆ แม้กระนั้นยังไปตรงตัว คาสเปอร์ ชไมเคิ่ล รับไว้ได้

รับบทวีรบุรุษ

ครั้ง 70 “เดอะ ฟ็อกซ์” ชวดได้ประตูแซงขึ้นนำหลัง แมดดิสัน จ่ายให้ ฮิเฮียนาโช่ อุตสาหะเปลี่ยนแปลงตัวเองยิงแม้กระนั้นบอลปลิ้นไปเข้าทาง เจมี่ ซัดบอลเข้าไป แต่ว่าผู้ตัดสินเป่าเป็นจังหวะล้ำหน้าของ วาร์ดี้ ไปก่อนแล้ว

นาที 78 เลสเตอร์ ทิ้งนาทีทองขึ้นนำอีกรอบ หลัง วาร์ดี้ เล่นชิ่งกับ อิเฮียนาโช่ บอลหลุดมาถึง วาร์ดี้ อีกรอบเกี่ยวเข้าไปซัดเสาแรกบอลพุ่งผ่านหน้าปากทางออกไปอย่างโชคร้าย

ผู้ร่วมทีมของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ยังโหมบุกอย่างมาก อีกนาทีต่อมา ที่วันนี้เล่นได้เด่นเก็บบอลได้ก่อนจ่ายคืนให้ ยูริ ตีเลมันส์ วิ่งมาซัดหลุดเสาออกไป

กระนั้น ประมาณ 80 เคเลชี่ มาแผลงฤทธิ์ จนได้หลังวิ่งไปเก็บบอลวางยาวของ จอนนี่ อีแวนส์ ก่อนลากตัดเข้าไปซัดสุดแรงบอลพุ่งแทงใต้คานเข้าไปอย่างงามเวอร์

ประเภทที่ บิเซนเต้ ไกวต้า ได้แต่ว่ายืนดู เป็นประตูที่ 10 ของหัวหอกชาวไนจีเรี่ยน ในช่วงฤดูกาลนี้ รวมทั้งเป็นประตูที่ 12 ใน 9 นัดหมายปัจจุบันรวมทุกรายการ ดูบอลสด

จบเกม เลสเตอร์ สิตี้ กลับแซงกลับมาเอาชนะ คริสตัล พาเลซ 2-1 ซิวสามแต้มพร้อมยึดอันดับ 3 ถัดไป โดยมี 62 คะแนน หนีอันดับ 4 เชลซี ไป 4 คะแนน ส่วน พาเลซ ยังอยู่ชั้น 13 อย่างเดิมมีเพียงแค่ 38 แต้ม