ฟอร์มดีที่สุด ผลให้สมาชิกคว้าแชมป์สองนัดหมายติดมีเพิ่มเป็น 24 คะแนน

ฟอร์มดีที่สุด พรีเมียร์ลีก อังกฤษ แมตช์เดย์ที่ 31 เจ้าของบ้าน เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน อันดับ 19 ฟอร์มปัจจุบันบุกไปไล่ยำ เชลซี ถึงถิ่น 5-2 รับการมาเยี่ยมของ เซาธ์แฮมป์ตัน ชั้น 14 ฟอร์มปัจจุบันไล่แทรกเอาชนะ เบิร์นลี่ย์ 3-2

แซม อัลลาร์ไดซ์ วาง คัลลัม โรบินสัน ที่ซัลโวสองเม็ดปัจจุบันคู่กับ เอ็มบาย เดียง ส่วน ราล์ฟ ฮาเซนฮึทเทิ่ล ที่ปรึกษาของ “นักบุญ”

วาง แดนนี่ อิงส์ ล่าตาข่ายกับ นาธาน เร้ดมอนด์ โดยมี ธีโอ วัลค็อตต์ ฟอร์มดีที่สุด ลากเลื้อยปั้นเกมร่วมกับ เจมส์ วอร์ด-เพร้าส์ สิ่งที่แฟนบอล

ประเดิมมาได้เพียงแค่ 3 ช่วงแรก เจ้าของบ้านชวดได้ประตูขึนนำหลัง มาเตอุส เปเรยร่า ล็อกด้วยขวาแล้วซัดด้วยซ้ายไปติดเซฟ เฟรเซอร์ ฟอร์สเตอร์ บอลโดนสะสางมาเข้าทาง ดาร์เนลล์ เฟอร์ทดลอง

วอลเลย์กดลงพื้นไปเข้าหัว เอ็มบาย เดียง โขกแทงตาข่ายเข้าไป แต่ทว่าผู้ตัดสินเป่าเป็นจังหวะล้ำหน้าของ เดียง ก่อนแล้วก็หลังได้เช็กกับ วีเออาร์ แล้วการันตีว่าเป็นจังหวะล้ำหน้า

ประมาณ 10 ช่องทางแรกของ “นักบุญ” ได้ลุ้นเหมือนกันหลังบอลวางยาวทิ้งมาให้ ไคล์ วอล์คเกอร์-ปีเตอร์ส วิ่งตามไปเก็บบอลถึงเส้นหลังก่อนกลับบอลหลบ คอเนอร์ ทาวน์เซนด์

ฟอร์มดีที่สุด

อย่างเหนือชั้นแล้วควบเข้าไปอัดเสาแรกแต่ว่ายังไม่ผ่านมือ แซม จอห์นสตัน ตีออกไปได้ อีกสองนาทีต่อมา คอเนอร์ ทาวน์เซนด์ เล่นกับ เอนส์ลี่ย์ เมโทแลนด์-ไนล์ส

ก่อนชิ่งมาให้ ทาวน์เซนด์หลุดเข้าไปยิงเสาแรกแม้กระนั้นยังติดขาของ เฟรเซอร์ ฟอร์สเตอร์ ช่วยคุ้มครองปกป้องไว้จวนเจียน เกมยังเปิดหน้าแลกเปลี่ยนกันบันเทิงใจ ประมาณ 21 “เดอะ แบ็กกี้ส์”

ได้ลุ้นอีกจากบอลทุ่มไกลเข้ามาเสาแรกให้ ไคล์ บาร์ทลี่ย์ ฟอร์มดีที่สุด กระแทกชงเข้ากึ่งกลางถึง มาเตอุส วิ่งมากระแทกแต่ว่ายังไปตรงตัวนายด่านนักบุญรับไว้ไม่พลาด

ตอน 25 เซาธ์แฮมป์ตัน โต้ตอบมาบ้าง นาธาน เร้ดมอนด์ ตะลุยเลี้ยงแปลกรับจนล้มลงไปในจุดโทษผู้ตัดสินไม่ว่าอะไร ไรอัน เบอร์ทรานด์ เก็บบอลได้ต่อก่อนเฉือนเข้ากึ่งกลางประตูให้ แดนนี่ อิงส์ ปั่นบอลหลุดกรอบออกไป

ตอน 28 ผู้ร่วมทีมของบิ๊กแซมคลาดโอกาสขึ้นนำหลัง มาเตอุส ไหลบอลให้ เอ็มบาย เดียง หลุดเข้าไปซัดด้วยขวาแต่ว่าเจ้าตัวยิงบอลหลุดกรอบออกไปอย่างน่าผิดหวัง

ไม่ถึงนาที นักบุญ ได้บอลสวนกลับครั้งนี้ ธีโอ วัลค็อตต์ ลากขึ้นมาทางขวาแล้วเฉือนเข้ากึ่งกลางให้ สจ๊วร์ต อาร์มสตรอง ตั้งป้อมซัดด้วยขวานอกกรอบสุดแรงเกิดบอลพุ่งแทบจะแทงสามเหลี่ยมอยู่สุดแต่ แซม จอห์นสตัน ยังบินปัดออกไปได้

ครั้ง 31 แบ็กกี้ส์ มาได้ลูกที่จุดลูกโทษหลัง มาเตอุส เปเรยร่า ถึงบอลก่อน เฟรเซอร์ ฟอร์สเตอร์ ที่พุ่งมาช้าแปลงเป็นรวบเปเรยร่าล้มลงไป

ผู้ตัดสินเป่าให้จุดลูกโทษในทันทีแล้วก็เป็น มาเตอุศ เปเรยรา

ขึ้นยืนขึ้นมาฆ่าซัดบอลเข้ากึ่งกลางประตูประเภทที่ ฟอร์สเตอร์ นายด่านนักบุญพุ่งไปด้านขวาผิดทาง เวสต์บรอมวิช ทะยานขึ้นนำก่อน 1-0 กีฬาขี่ม้า

ต่อจากนั้นนาที 35 เจ้าของบ้านมานำห่างเป็น 2-0 อย่างเร็ว จากจัวหวะบกพร่องของแนวรับนักบุญที่คืนหลังไม่ดีโดน เอ็มบาย เดียง ตัดบอลได้แล้วเข้าไปครอสถึงเสาไกลให้ แม็ตต์ ฟิลลิปส์ เพิ่มเติมมาซัดเข้าไปอย่างเด็ดขาด

จบครึ่งแรก เวสต์บรอมวิช ออกนำกลุ่มเยี่ยม เซาธ์แฮมป์ตัน 2-0 ช่วงหลัง ครั้ง 60 นักบุญแทบได้ลุ้นตีไข่แตก

จากจังหวะสวนกลับขึ้นมา ไคล์ วอล์คเกอร์-ปีเตอร์ส ควบขึ้นมาถึงหน้ากรอบแล้วไหลให้ เจมส์ วอร์ด-เพร้าส์ ซัดสุดแรงเกิดด้วยข้อแต่ว่ายังไปตรงตัว แซม จอห์นสตัน

นาที 69 เจ้าของบ้านมาหนีห่างไปไกลถึง 3-0 จากจังหวะเก็บบอลได้กึ่งกลางสนามของ เปเรยร่า จ่ายสั้นๆให้ โอคาย โยคุสลู

ฟอร์มดีที่สุด

แทงทะลุคู่เซ็นเตอร์แบ็กให้ คัลลัม โรบินสันใช้สปีดหนี ยานนิค เวสเตอร์การ์ด เข้าไปซัดเสาแรกหนีมือฟอร์สเตอร์เข้าไปอย่างคมมาก

กองทัพนักบุญหลังสกอร์ตามหลังถึงสามเม็ด พากเพียรรีบเกมเข้าทำบุกใส่เจ้าถิ่นอย่างมาก นาที 75 นาธาน เร้ดมอนด์ ตั้งป้อมซัดนอกกรอบบอลพุ่งเฉียดฉิวคานออกไปแบบได้เสียว

ตอนทดเจ็บ นาที 90+3 เซาธ์แฮมป์ตัน มาชวดได้ประตูตีไข่แตก หลังมาได้ลูกที่จุดลูกโทษ แม้กระนั้น เจมส์ วอร์ด-เพร้าส์ ดันยิงไปติดเซฟของ แซม จอห์นสตัน อย่างโชคร้าย

จบเกม เวสต์บรอมวิชฯ โชว์ฟอร์มฮอตสม่ำเสมอไล่กระหน่ำ เซาธ์แฮมป์ตัน กินขาด 3-0 เก็บสามแต้มมีเพิ่มเป็น 24 คะแนน ดูบอลสด

แม้ว่าจะรั้งรองบ๊วยดังเดิม แม้กระนั้นขยับจี๋โซนไม่มีอันตราย อย่าง นิวคาสเซิ่ล ที่อยู่ชั้น 17 เพียงแค่ 8 คะแนนแค่นั้น ส่วน “นักบุญ” อยู่ที่ 14 เหมือนเดิมมี 36 คะแนน

เวสต์บรอมวิชฯ (4-4-2) : แซม จอห์นสตัน – ดาร์เนลล์ เฟอร์ลอง, ไคล์ บาร์ทลี่ย์ (เซมี่ อจายี่ น.85), ดาร่า โอเช่, คอเนอร์ ทาวน์เซนด์ – แม็ตต์ ฟิลลิปส์,

โอคาย โยคุสลู, เอนส์ลี่ย์ เมทแลนด์-ไนล์ส, มาเตอุส เปเรยร่า – เอ็มบาย เดียง (ฮัล ร็อนสัน-คานู น.76), คัลลัม โรบินสัน (คอเนอร์ กัลลาเกอร์ น.72)

เซาธ์แฮมป์ตัน (4-4-2) : เฟรเซอร์ ฟอร์สเตอร์ – ไคล์ วอล์คเกอร์-ปีเตอร์ส (มูสซ่า เฌเนโป น.87), ยาน เบดนาเร็ค, ยานนิค เวสเตอร์การ์ด,

ไรอัน เบอร์ทรานด์ – สจ๊วร์ต อาร์มสตรอง, เจมส์ วอร์ด-เพร้าส์, อิบราฮิมา ดิยัลโล่, ธีโอ วัลค็อตต์ (เช อดัม น.76) – แดนนี่ อิงส์ (นาธาน เตลล่า น.87), นาธาน เร้ดมอนด์