ทำเพียงแค่บุก ชวดแซงหมาจิ้งจอก ได้เพียงแค่เจ๊าไม่มีสกอร์

ทำเพียงแค่บุก ลีดส์ ยูไนเต็ด คว้าชัยในลีกได้เพียงเกมเดียวจาก 5 เกมหลังสุดหลังออกไปแพ้ เวสต์แฮม 0-2 ในเกมลีกนัดหมายปัจจุบัน ทำให้เจ้าของบ้านรั้งชั้นที่ 11 ของตารางคะแนนปัจจุบันนี้

เกมนี้ มาร์เซโล่ บิเอลซ่า ได้รับข่าวดีเมื่อได้ คาลวิน ฟิลลิปส์ สลัดการบาดเจ็บหวนมาคุมดินแดนกึ่งกลาง โดยแนวรุกฝากความมุ่งมาดไว้ที่ ราฟินญ่า รวมทั้ง แพทริค แบมฟอร์ด หมดกังวลมาได้

ด้าน สิงห์น้ำเงิน ของ โธมัส ทูเคิ่ล ชนะในลีกมา 2 เกมต่อเนื่องกัน ทำเพียงแค่บุก เกมนี้มีการปรับกองทัพบางตำแหน่งส่ง ไค ฮาแวร์ทซ์ ลงเป็นกองหน้ตัวเป้า โดยมี เมสัน เมาน์ท, คริสเตียน พูลิซิช รวมทั้ง ฮาคิม สิเย็ค ปั้นเกมอยู่ด้านหลัง

ทำเพียงแค่บุก

ครึ่งแรก นาทีที่ 7 เกือบจะขึ้นนำก่อน จากจังหวะสวนกลับเร็ว แพทริค แบมฟอร์ด หลุดคนเดียวเข้าจุดโทษแล้วจ่ายไปเสาไกลให้ ไทเลอร์ โรเบิร์ต ได้ซัดเตียนๆเข้าไป แต่ว่าผู้ตอนยกธงเป็นจังหวะล้ำหน้าของ แบมฟอร์ด ไปก่อน

จากนั้น สิงห์ มีลุ้นขึ้นนำบ้างจากจังหวะที่ ลุค อายลิ่ง บากบั่นสะสางบอลในจุดโทษแม้กระนั้นไปโดน ปาสกาล สตรูจค์ บอลกระเด้งไปชนคานกลับมาเข้าซองของ อิลล็อง เมสลิเย่ร์ รับไว้ได้ ในนาทีที่ 11

เกมเปิดหน้าแลกเปลี่ยนกันบันเทิงใจ นาที 15 เฉียดขึ้นนำอีกที ไทเลอร์ โรเบิร์ต ส่องไกลนอกกรอบบอลเลย เอดูอาร์ เมนดี้ ไปชนคานเด้งออกมา

ต่อมา นาที 33 เบน ชิลเวลล์ ตัวบุกปีกซ้าย เชลซี ได้บอลหน้าจุดโทษ ทำเพียงแค่บุก ก่อนตั้งป้อมซัดบอลไปไถลแนวรับ เฉี่ยวเสาออกหลังไปน้อยมาก

ทางลีด จำต้องโชคร้ายเสียโควต้าสลับตัวคนแรก

ภายหลังจาก แพทริค แบมฟอร์ด มีลักษณะเจ็บจนกระทั่งเล่นต่อไม่ไหว ก่อนที่จะเป็น โรดริโก้ โมเรโน่ ลงมาเล่นแทน ในนาที 35 กีฬาขี่ม้า

ตอนที่เหลือถึงแม้ เชลซี จะครอบครองเกมบุกใส่ได้มากกว่า แม้กระนั้น ยังเจาะแนวรับ เข้าไปลุ้นทำแต้ม แบบชัดเจนมิได้ ทำให้จบครึ่งแรกทั้งคู่กลุ่มยังเสมอ 0-0

ช่วงหลังเล่นมาได้สองนาที ไค ฮาแวร์ทซ์ ลากหลุดเข้ามาในจุดโทษแล้วได้ส่องด้วยขวาเน้นย้ำๆแต่ว่าบอลไปตรงตัว อิลล็อง เมสลิเย่ร์ ปัดปลายมือออกข้างหลังไปเฉียด

ทำเพียงแค่บุก

แล้วใกล้เคียง ที่กำลังจะได้ประตูขึ้นนำสุดๆ เมื่อ ราฟินญ่า ได้บอลหน้าปากประตู แล้วกลับเนื้อกลับตัวซัดด้วยซ้าย เอดูอาร์ เมนดี้ ปัดทิ้งปลายมือออกไปได้อย่างเฉียดฉิว ในนาที 55

สิงน้ำเงิน ยังครอบครองเกมได้เหนือกว่า อันโตนิโอ รือดิเกอร์ เพิ่มเติมขึ้นมาทดลองส่องหน้าจุดโทษ อิลล็อง เมสลิเย่ร์ จะต้องออกแรงพุ่งปัดทิ้งออกไปได้ ในนาที 72

จนแล้วจนรอด สิงน้ำเงิน ก็ยังมิได้ประตูขึ้นนำ ด้านหลังเกม นาที 87 คัลลั่ม ฮัดสัน โอดอย ผู้เล่นสำรอง ลากจากซ้ายตัดเข้ากึ่งกลางแล้วกดด้วยขวาบอลยังพุ่งไปตรงตัวของ เมสลิเย่ร์ รับเข้าซอง

ในเวลาที่เหลือทั้งคู่กลุ่มยังทำอะไรกันมิได้ จบเกม ลีดส์ ยูไนเต็ด เสมอ เชลซี 0-0 ทำให้กองทัพ “สิงห์บลูส์” ชวดแซง เลสเตอร์ ขึ้นไปรั้งที่ 3 ของตาราง ส่วนกลุ่ม “ยูงทอง” ไม่มีชัย 3 นัดหมายรวด ยังอยู่ที่ 11 ของตาราง

ลีดส์ ยูไนเต็ด (4-4-1-1) : อิลล็อง เมสลิเย่ร์ – ลุค อายลิ่ง, ดีเอโก้ ยอเรนเต้, ปาสกาล สตรูจค์, เอซยาน อลิออสกี้ – ราฟินญ่า, คาลวิน ฟิลลิปส์, สจ๊วร์ต ดัลลัส, ไทเลอร์ โรเบิร์ต, แจ็ค แฮร์ริสัน (เอลแดร์ คอสต้า น.64) – แพทริค แบมฟอร์ด (โรดริโก้ โมเรโน่ น.35)

เชลซี (4-2-3-1) : เอดูอาร์ เมนดี้ – เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า, อันเดรียส คริสเตนเซ่น, อันโตนิโอ รือดิเกอร์, เบน ชิลเวลล์ – จอร์จินโญ่, เอ็นโกโล่ ก็องเต้

– เมสัน เมาน์ท (คัลลั่ม ฮัดสัน โอดอย น.79), คริสเตียน พูลิซิช (รีช เจมส์ น.68), ฮาคิม ซิเย็ค (ติโม แวร์เนอร์ น.68) – ไค ฮาแวร์ทซ์ ดูบอลสด