จากฮีโร่สู่ผู้ร้าย จนนำมาสู่การใช้เงินซื้อความสำเร็จ

จากฮีโร่สู่ผู้ร้าย เบื้องหน้าของการทุ่มเงินตลอด หลายปีของแบล็กเบิร์น ออกดอกออก
ผลเป็นแชมป์ลีก สูงสุดครั้งแรก ในรอบ 81 ปี แต่เบื้องหลังคือ การฝากภาระการใช้เงิน
มหาศาลเอาไว้ให้สโมสร แบล็กเบิร์นไม่ได้เสียเงินมาก ไปกับการซื้อนักเตะ และพัฒนา
สนามเท่านั้น แต่ยังรวมถึงค่าเหนื่อย นักเตะราคาแพง

บวกกับค่าจ้างแพงหูฉีกของ เคนนี ดัลกลิช กุนซือคนเก่งที่ปั้นทีมชุดนี้มาตั้งแต่ปี 1991
สิ่งหนึ่งที่ แจ็ค วอล์คเกอร์ มองข้ามมาตลอด คือการพัฒนานักเตะจากอคาเดมี ทำ
ให้การจะหานักเตะหน้าใหม่เข้ามาเสริมทีม สิ่งเดียวที่ทำได้คือซื้อ ไม่มีการเลื่อนเด็ก
จากชุดเยาวชนขึ้นมาแนว ทางการทำทีม ของแบล็กเบิร์น

คือการใช้เงินซื้อความสำเร็จ ซึ่งพวกเขาไม่ได้มองว่ามันเป็นปัญหา จนกระทั่งมีทีมอื่น
หันมาใช้วิธีเดียวกัน และมีเงินหนากว่าแบล็กเบิร์นนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด, อาร์เซนอล,
เชลซี หันมาเดินหน้าทุ่มซื้อนักเตะราคาแพงเข้ามาเสริมทีม ภายในช่วงพริบตาเดียว
สโมสรเหล่านี้ก้าวขึ้นมา เป็นทีมระดับหัวตาราง เหมือนกับที่แบล็ก เบิร์นเคยทำได้
ในทางตรงกันข้าม แบล็กเบิร์นกลับไม่ ได้ทุ่มแข่งกับทีมอื่น

จากฮีโร่สู่ผู้ร้าย

แต่สโมสรทำในสิ่ง ที่ค้านสายตาแฟนบอล คือการทยอยขายนักเตะ ตัวหลักออกจาก
ทีมแม้จะรักทีมมากแค่ไหน แจ็ค วอล์คเกอร์ คือนักธุรกิจ และเขามองว่าการที่ทีมใน
พรีเมียร์ลีกหันมาทุ่มซื้อ นักเตะด้วยราคาสูง เป็นเท่าตัว จากสมัยที่ตัวเขา เข้ามาทำ
ทีมใหม่ ๆ คือโอกาสดีที่จะถอนทุนคืน

และสร้างกำไรจากธุรกิจฟุตบอล เดวิด แบตตี้ ย้ายไปอยู่ นิวคาสเซิล ด้วยราคา 4.6
ล้านปอนด์, อลัน เชียเรอร์ ไป นิวคาสเซิล ทีมบ้านเกิดด้วยราคา 15 ล้านปอนด์
เป็นสถิติโลก ณ ปี 1996, แกรม เลอ โซซ์ กลับไปอยู่กับ เชลซี อีกครั้งด้วยค่า
ตัว 5 ล้านปอนด์ เป็นราคากองหลังที่ แพงที่สุดของลีกอังกฤษ ณ ปี 1997

และอีกมากมายหลายดีลที่สร้างกำไรให้กับ แจ็ค วอล์คเกอร์ ไม่หยุด หลังจากขาย
นักเตะออกจากทีมจำนวนมาก ความตกต่ำเข้ามาเยือนอย่างรวดเร็ว 2 ปีหลังจากได้
แชมป์พรีเมียร์ลีก แบล็กเบิร์นหล่นไปจบอันดับ 13 ของตาราง และ 2 ปีหลังจาก
นั้น สโมสรแห่งนี้ตกชั้น จากลีกสูงสุดในฤดูกาล 1998 -99 ดูบอลสด

จากฮีโร่ผู้กอบกู้ทีมบ้านเกิด แจ็ค วอล์คเกอร์ กลายเป็นปีศาจร้าย

ผู้ทำลายสโมสรในพริบตา และเป็นที่เกลียดชังของแฟนบอลแบล็กเบิร์น ก่อนที่เขา
จะเสียชีวิตในปี 2000 อย่างไรก็ดี การจากไปของ แจ็ค วอล์คเกอร์ ทำให้สโมสร
แห่งนี้เลือกจะมองสิ่งดี ที่ผู้ชายคนนี้เคยฝากไว้ให้ พร้อมใจกันสู้จนได้สิทธิ์เลื่อน
ชั้นกลับสู่ลีกสูงสุดอีกครั้ง ในปี 2001

พร้อมกับคว้าแชมป์ลีกคัพเป็นครั้งแรกของสโมสรในฤดูกาลถัดมานอกจากนี้ สื่อได้
รายงานปัญหาสำคัญที่แบล็กเบิร์นต้องเผชิญ คือการแทรกแซงจากกลุ่มผู้บริหาร
ที่ยังนำวิธีการทำงานธุรกิจจากบนลงล่างมาใช้ โดยไม่เข้าใจถึงวัฒนธรรมฟุตบอล
ตะวันตก การมีมือที่มองไม่เห็น เข้ามายุ่มย่ามการทำทีม ของโค้ชตลอดเวลา

และพร้อมจะปลดผู้จัดการทีมทุกคนที่ทำงานไม่ได้ดั่งใจ ย่อมส่งผลเสียต่อผลงาน
ของทีมในสนามอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ยิ่งเวลาผ่านไปผลงานยิ่งตกต่ำ กลุ่มทุนจาก
อินเดียเริ่มถอดใจ ไม่นำเงินมาลงทุนกับทีม ปล่อยให้ทัพกุหลาบไฟเผชิญหน้าโลก
ฟุตบอลตามมีตามเกิด สุดท้ายแบล็กเบิร์นต้องร่วงหล่น

จากลีกรองของอังกฤษ ไปสู่ลีกลำดับ 3 หรือลีกวัน ในปี 2017อย่างไรก็ตาม
บทเรียนความล้มเหลวอย่างหนัก ช่วยให้กลุ่มเจ้าของทีมตาสว่าง พวกเขาหันมา
ทำทีมอย่างจริงจังอีกครั้ง ผ่านการพยายามแก้ไขปัญหานอกสนามด้วยการช่วย
ให้สโมสรมีรายได้ที่มั่นคง เพื่อเก็บนักเตะไว้กับทีมให้ได้ รวมถึงทำในสิ่งที่
สำคัญที่สุด จากฮีโร่สู่ผู้ร้าย

คือเลิกแทรกแซงการทำทีมโดย ไม่จำเป็นแบล็กเบิร์น สามารถกลับมาอยู่ในลีก
พระรองได้อีกครั้ง ในฤดูกาล 2018-19 ซึ่งถือเป็นการแก้ตัวที่ยอดเยี่ยมของ
ทีม และการมีผลงานที่จับต้องได้อีกครั้ง แม้จะเป็นในลีกระดับล่างก็ช่วยสร้าง
ความหวังให้กับแฟนบอลของทีมได้เป็นอย่างดี

จากฮีโร่สู่ผู้ร้าย

ว่าวันหนึ่งพวกเขาจะกลับไปสู่ในจุดที่ทีมควรยืนอยู่อีกครั้ง เหมือนอย่างที่ เลส
เตอร์ ซิตี้้ และ ลีดส์ ยูไนเต็ด ทำได้มาก่อนหน้านี้ความสำเร็จของแบล็กเบิร์น
ยังคงเป็นที่จดจำของแฟนบอลกุหลาบไฟเสมอ แม้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน
สโมสรแห่งนี้คือทีมที่เคยเป็นราชาฟุตบอลอังกฤษยุคใหม่

ได้ครอบครองถ้วยที่หลายทีมไม่มีโอกาสจะได้สัมผัส อย่างไรก็ตาม แชมป์พรี
เมียร์ลีกของแบล็กเบิร์น ไม่ต่างอะไรกับการทำสัญญากับปีศาจ เพราะสุดท้าย
พวกเขาได้ปลุกผีทุนนิยมเข้าสู่วงการฟุตบอล และเปลี่ยนการซื้อขายนักฟุต
บอลไปตลอดกาล

ทว่าสโมสรแห่งนี้ไม่สามารถที่จะปรับตัวตามโลกฟุตบอลที่เปลี่ยนไปได้ ผลลัพธ์
สุดท้ายชื่อของแบล็กเบิร์นจึงต้องหายไปจากการเป็นสโมสรชั้นนำของประเทศ
อังกฤษ ยาวนานร่วม 25 ปีกระนั้นความหวังยังคงมีเสมอ แบล็กเบิร์นเคยรอยาว
นาน 81 ปี

เพื่อกลับมาเป็นแชมป์ลีกสูงสุดอีกครั้งแบบที่ไม่มีใครคาดคิด ดังนั้นอย่าแปลกใจ
หากคุณได้เห็นกุหลาบดอกนี้ กลับมาเป็นกุหลาบไฟที่ลุกโชติช่วงในฐานะแชมป์
พรีเมียร์ลีกในอนาคต หันหลังให้ลูกหนัง | กีฬาขี่ม้า