ผู้ชุบชีวิตฟุตบอล ทุ่มเงินคว้านักเตะที่เคยคว้าแชมป์โลกมาร่วมทีมถึงสองคน

ผู้ชุบชีวิตฟุตบอล การเซ็นสัญญาของเป เล่ถือเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องของพวกเขา
เมื่อมันทำให้กระแสฟุตบอลฟีเวอร์ กระจายไปทั่วอเมริกาเป เล่และคอส มอสกลายเป็น
ทีมซูเปอร์สตาร์ ที่มีแต่คนให้ความสนใจ และรอชมฝีเท้าในทุกสนามที่ไป มันคือการตลาด
ในฝันของ สตีฟ รอส บิ๊กบอสของวอร์เนอร์ เมื่อเป เล่ทำให้คอส มอสอยู่ตรงกลางของ
สปอตไลท์

ไม่ว่าจะเป็นการที่เป เล่ได้ถ่ายรูปร่วมกับ เจอรัลด์ ฟอร์ด ประธานาธิบดีอเมริกา หรือการที่
ทีมมีคิวจองไปเตะโชว์ทั่วโลก ในขณะเดียวกันเป เล่ยังได้จุดประกายให้หลายทีมเดินตาม
รอยคอส มอสเมื่อมันทำให้สโมสรอื่นพากันทุ่มเงิน ดึงนักเตะชื่อดังมาร่วมทีม ไม่ว่าจะเป็น
จอร์จ เบสต์ ที่มาอยู่กับ ลอส แอนเจลิส แอซเท็กส์ ที่มี เอลตัน จอห์น

เป็นหุ้นส่วน, เจฟฟ์ เฮิร์สต์ ที่มาเล่นให้กับ ซีแอตเทิล ซาวเดอร์ส หรือ รอดนีย์ มาร์ช
ที่มาอยู่กับ แทมปา เบย์ ราวดีส์ แน่นอนว่าคอส มอสไม่ได้ปล่อยให้คู่แข่งเสริมทัพอยู่
ฝ่ายเดียว เมื่อพวกเขาเองก็พยายามขยายทีมเช่นกัน ทั้งการย้ายรังเหย้าจาก ดาวนิง
สเตเดียม ไปสู่ ไจแอนท์ส สเตเดียม ที่มีความจุถึง 80,000 ที่นั่ง

หรือการจ้างดีไซน์เนอร์ชื่อดังอย่าง ราล์ฟ ลอเรน เจ้าของแบรนด์ โปโล มาออกแบบชุด
แข่งให้ นอกจากนี้พวกเขายังได้ทุ่มเงินคว้านักเตะที่เคยคว้าแชมป์โลกมาร่วมทีมถึงสองคน
นั่นก็คือ ฟรานซ์ เบ็คเคนบาวเออร์ ตำนานชาวเยอรมัน และ คาร์ลอส อัลแบร์โต กัปตัน
ทีมชาติบราซิล ที่ทำให้ชื่อของ คอส มอส

เป็นที่รู้จักยิ่งขึ้นอีก “เบ็คเคนเบาเออร์และคาร์ลอส อัลแบร์โต ทำให้เราก้าวไปอีกระดับ”
สตีฟ ฮันท์ แข้งชาวอังกฤษที่เคยเล่นให้กับคอส มอสในช่วงปี 1977-1978 กล่าวกับ
บีบีซี”มันไม่ใช่แค่เรื่องฟุตบอล มันเป็นวิธีจัดการตัวเอง และมีเวลากับผู้คน ผมสนุกกับ
ทีมนี้มากเท่ากับความสนุกที่ได้เล่นกับพวกเขา” “เบ็คเคนเบาเออร์มีความสง่างาม

เขาเคลื่อนที่ได้เนียนตา และนั่นคือสิ่งที่เขาเป็นนอกสนาม เขาเป็นคนนิสัยดีคนหนึ่งของ
ทีม” เช่นกัน สำหรับคอส มอสเมื่อเหล่าสตาร์ดังของพวกเขา ต่างช่วยดึงดูดให้แฟนบอล
เข้ามาชมเกมในสนาม จนทำให้พวกเขากลายเป็นเจ้าของสถิติผู้ชมในสนามสูงสุดตั้งแต่ปี
1975 แถมในปี 1977 พวกเขายังทำลายสถิติผู้ชมสูงสุดตลอดกาล

ผู้ชุบชีวิตฟุตบอล

หลังมีแฟนบอลเข้ามาชมเกมในรอบเพลย์ออฟที่พบกับ ฟอร์ท ลอเดอร์เดล สไตร์เกอร์ส
ถึง 77,691 คนการลงทุนของพวกเขาได้สร้างผลดีให้แก่ลีก เมื่อมันทำให้ฟุตบอล
กลายเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมอย่างก้าวกระโดด จากสถิติระบุว่า มียอดผู้ชมเฉลี่ยที่
สูงขึ้นทุกปีนับตั้งแต่เป เล่มาถึง เริ่มจาก 7,642 คนในปี 1975

เป็น 10,295 คนในปี 1976 และ 13,558 คนในปี 1977 นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นจากการมา
ถึงของชายคนหนึ่ง ที่ทำให้เกมลูกหนัง ที่ก่อนหน้านั้นเป็นเพียงกีฬาเฉพาะกลุ่ม กลายมา
เป็นกีฬาที่ผู้คนต่างให้ความสนใจไปทั่วอเมริกา ก่อนเป เล่จะมาที่เมืองนี้ ฟุตบอลถูกราย
งานโดยนักข่าวเด็ก ๆ ส่วนใหญ่เป็นการลงโทษด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้มีนักข่าวกว่า 300 คน
ที่ดาวนิง สเตเดียม รวมถึง เดวิด เฮอร์เชย์

ผู้สื่อข่าวของ นิวยอร์ก เดลี นิวส์” กาวิน นิวแชม กล่าวในสารคดี อย่างไรก็ดี ช่วงเวลา
ที่ดี มักจะอยู่กับเราได้ไม่นานเริ่มต้นสู่จุดจบ”นิวยอร์กคอส มอสเป็นทั้งด้านที่ยอดเยี่ยม
และด้านเลวร้ายของฟุตบอลอเมริกา” รอดนีย์ มาร์ช ที่เคยเล่นในลีกอเมริกาในช่วงปี
1976-1979 เคยกล่าวเอาไว้หลังจากเล่นในลีกอเมริกามา 3 ซีซั่น  ดูบอลสด

พร้อมกับผลงานที่ไม่เลว ด้วยการยิงไปถึง 64 จาก 104 นัด

และช่วยให้คอส มอสคว้าแชมป์ซูเปอร์โบวล์ ในฤดูกาลส่งท้าย การจากลาก็มาถึง เมื่อ
เป เล่ประกาศแขวนสตั๊ดหลังหมดสัญญากับทีม”หลังจากคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 3 ครั้ง
ตอนนี้ผมสามารถเลิกได้แล้ว ในฐานะแชมป์ ผมสามารถตายได้เลยตอนนี้ ผมได้ทุกอย่าง
เกี่ยวกับฟุตบอลที่ผมอยากได้ในชีวิตหมดแล้ว  ผู้ชุบชีวิตฟุตบอล

กล่าวหลังนัดชิงชนะเลิศซูเปอร์โบวล์ ที่ทีมเอาชนะ ซีเแอทเทิล ซาวเดอร์ส์ 2-1หลังออก
ทัวร์จีนและญี่ปุ่นกับคอส มอสเป็นครั้งสุดท้ายเป เล่ก็ลงเล่นนัดอำลาด้วยการพบกับ
ซานโตส อีกหนึ่งสโมสรของเขาใน ไจแอนท์ส์ สเตเดียม เขาเล่นให้แต่ละทีมอย่างละ
ครึ่ง ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาจนทำให้หนังสือพิมพ์บราซิลเขียนว่า “แม้แต่ฟ้าก็ยัง
ร้องไห้” ผู้ชุบชีวิตฟุตบอล

เขาปิดฉากชีวิตนักเตะอย่างสมบูรณ์แบบด้วยวัย 37 ปี ในขณะที่คอส มอสแม้ว่าพวกเขา
จะไม่มีเป เล่แต่หลังจากนั้น ทีมยังคงแข็งแกร่ง เมื่อสามารถคว้าแชมป์ซูเปอร์โบวล์ได้อีก
3 สมัยในปี 1978, 1980, 1982 “มันคือการผจญภัย มันเหมือนกับกระแสตูมตาม มัน
เหมือนกับครอบครัว มันยอดเยี่ยมมาก เป็นประสบการณ์ที่ผมไม่มีวันลืม”

เบ็คเคนบาวเออร์ที่อยู่กับทีมในช่วงปี 1977-1980 แต่ดูเหมือนนั่นจะเป็นฉากสุดท้ายของ
พวกเขา เมื่อหลังจากนั้นทีมกลับประสบปัญหาทางการเงินอย่างรุนแรง เมื่อการใช้เงินอย่าง
มือเติบ โดยเฉพาะทุ่มเงินจ้างนักเตะดัง ไม่สัมพันธ์กับรายได้ที่เข้ามา และทำให้สโมสรอยู่
ในภาวะหนี้ท่วมตัว “มันไม่มีต้นแบบทางธุรกิจ หลังเป เล่เลิกเล่น

มันก็เหมือนกับเก็บเต็นท์ เราชอบสตูดิโอ 54 ตอนนั้นทุกคนต่างต้องการเรา และหลังจาก
นั้นมันก็เป็นอีกแบบ” เซฟ เมสซิง ผู้รักษาประตูของคอส มอสกล่าวเหล้าใหม่ในขวดเก่า
แม้หลังจากนั้น จะมีความพยายามในการคืนชีพ นิวยอร์กคอส มอสหลายครั้ง รวมไปถึง
การพยายามล็อบบี้ให้ นิวยอร์ก/นิวเจอร์ซีย์ เมโทรสตาร์ส หรือ นิวยอร์ก เรดบูลส์

ผู้ชุบชีวิตฟุตบอล

ในปัจจุบัน ใช้ชื่อคอส มอสสมัยก่อตั้ง หรือ เมเจอร์ลีก ซอคเกอร์ ใหม่ ๆ แต่ก็ไม่เป็นผล
จนสุดท้ายชื่อนี้ได้ถูกขายไปให้ พอล เคมส์เลย์ นักธุรกิจชาวอังกฤษ ที่ก่อตั้ง นิวยอร์ก
คอส มอสขึ้นมาใหม่ในปี 2010 และลงเล่นใน ซึ่งอยู่ในระดับ 2 ของพิรามิดฟุตบอลอเมริกา
แม้ว่าทีมจะสร้างความหวือหวา ผู้ชุบชีวิตฟุตบอล

ด้วยการดึง ราอูล กอนซาเลซ อดีตแข้ง เรอัล มาดริด มาเล่น รวมไปถึงแต่งตั้ง เอริค คัน
โตนา มาเป็นผู้อำนวยการสโมสร แต่ดูเหมือนจะทีมจะไม่ประสบความสำเร็จมากนัก แถมพวก
เขามีอันต้องย้ายลีกอีกครั้งในปี 2017 เมื่อถูกยุบ ทำให้ต้องพักทีมหนึ่งฤดูกาล ก่อนจะได้เล่น
ใน ซึ่งเป็นลีกระดับ 3 ในพิรามิดฟุตบอล

ซึ่งเรียกได้ว่าห่างไกลจากความสำเร็จของคอส มอสในวันวานอย่างสุดกู่เลยทีเดียวอย่าง
ไรก็ดีแม้จะเป็นเช่นนั้น แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า ครั้งหนึ่ง นิวยอร์กคอส มอสได้เป็นประกาย
สำคัญที่ทำให้ ที่ทำให้ “ฟุตบอล” หรือ “ซอคเกอร์” ปักธงลงในแผนที่ของอเมริกาได้
สำเร็จ และทำให้ชื่อของคอส มอสได้รับการจดจำในฐานะ ตำนานบทหนึ่ง ของโลก
ลูกหนัง ยกทัพออกไปเยือน กีฬาขี่ม้า