ท้ายที่สุดศึก จัดแจงจัดหนักจัดเต็มจัดการคู่อาฆาตร่วมลีกอย่างยิ่งจริงๆ
ท้ายที่สุดศึก อย่างไรก็ดีในแมตช์นี้ โซลชา พร้อมจัดหนักต้อนรับ หงแดง ไม่ใช่แค่เป็นการให้เกียรติสำหรับศัตรูตลอดกาลเพียงแค่นั้น แต่ว่าอยากได้ดับฝัน “ลิเวอร์พูล”
สำหรับการลุ้นท็อปโฟร์ด้วย ซึ่งแน่ๆว่าสาวก “เร้ด อาร์มี่” คงจะหนำใจสุดๆที่มองเห็นแฟนบอล “ลิเวอร์พูล” ต้องเศร้าหมองที่กลุ่มรักอดไปเล่นเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก
- แนวรับยังคงมีปัญหา
อย่างที่ทราบดีว่า ท้ายที่สุดศึก หนึ่งในปัญหาใหญ่ ก็คือผู้เล่นกำลังสำคัญเจ็บโดยยิ่งไปกว่านั้นในตำแหน่งกองหลังตัวกลาง พวกเขาไม่มีทั้งยัง เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, โจ โกเมซ และก็ โฌเอล มาติป
ทำให้จะต้องใช้งาน ฟาบินโญ่ กับลำแข้งดาวรุ่งอย่าง นาธาเนียล กับ รีส วิลเลี่ยมส์ ในตอนเดือนมกราคมที่ผ่านมา อุตสาห์ลงทุนไปคว้าตัว เบน เดวิส ลงทัณฑ์จากความ
แต่ว่าไม่เคยได้มองเห็นลงสู่สนามส่วนมากใช้เวลาอยู่ที่โรงหมอเพื่อรักษาการบาดเจ็บมากยิ่งกว่า ในเวลาที่ โอซาน คาบัค กำลังทำผลงานก้าวหน้าแม้กระนั้นดันดวงแตกได้รับบาดเจ็บเข้าไปอีก
พบอย่างนี้เข้าไป คล็อปป์ ก็อาจจำเป็นที่จะต้องเรียก ฟาบินโญ่ กลับมายืนเซนเตอร์แบ็กอีกที แม้กระนั้นหัวข้อหลักก็คือคู่คิดของเขาว่าจะเป็นคนไหนกัน ระหว่าง ฟิลลิปส์ กับ วิลเลี่ยมส์ ซึ่งทั้งคู่คนยังไม่ค่อยมีประสบการณ์ในเกม “แดงเดือด” มากสักเท่าไรนัก
ในราย ซึ่งกำลังทำผลงานก้าวหน้าคู่กับ คาบัค บางครั้งอาจจะเป็นตัวเลือกแรกของ คล็อปป์ เพราะว่ากรณีของ วิลเลี่ยมส์ ดูเหมือนนักฟุตบอลยังหลอนในระหว่างที่โดน มาร์คัส แรชฟอร์ด เผาเครื่องในเกมเอฟเอ คัพ
แน่ๆว่าเรื่องความเร็วทั้งยัง ฟิลลิปส์ กับ วิลเลี่ยมส์ ด้อยกว่าแนวรุกของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แม้กระนั้นถ้าเกิดเอ่ยถึงความแน่นอน ฟิลลิปส์ มีภาษีดียิ่งกว่า และก็จุดนี้อาจจะทำให้ ที่ปรึกษาชาวเยอรมัน ไว้วางใจเขาสำหรับเพื่อการคุมเกมรับแมตช์สำคัญนี้
กระนั้นถ้า เกิดในกรณีที่ อยากให้ ฟาบินโญ่ ไปช่วยเพิ่มความแข็งแกร่ง ในดินแดนกลาง งานนี้สาวก “เดอะ ค็อป” อาจมีเสียวที่จะจำเป็นต้องเห็น ฟิลลิปส์ กับ วิลเลี่ยมส์ ยืนเป็นคู่ซี้กองหลังตัวกลาง ต่อกรกับเหล่าลำแข้งสปีดเร็วกว่านรกของ “ผีแดง”
- โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ของแสลงของคล็อพ
สาวก “เดอะ ค็อป” ต่างก็ซาบซึ้งความยอดเยี่ยมของ คล็อปป์ มาตลอดนับจากที่เขาเข้ามาจับบังเหียน “หงแดง” และแน่ๆว่าที่ปรึกษาเลือดด๊อทย์ช
ได้สร้างผลงานดีมีคุณภาพมากมาย แล้วก็การนำแชมป์ที่ยิ่งใหญ่อย่าง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และก็ พรีเมียร์ลีก มาแต่งแต้มตู้โชว์ที่แอนฟิลด์
แต่สิ่งหนึ่งที่ยังคงเป็นรอยด่างในผลงาน ก็คือเขาชอบจะต้องพบกับความลำบากตรากตรำในการนำกองทัพ “เดอะ เร้ดส์” บุกเยี่ยม โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
แล้วก็บ่อยมากการมาตรงนี้ผู้ร่วมทีมของเขาทำผลงานไม่ค่อยดีนัก อย่างในแมตช์เสมอเมื่อฤดู 2018/2019 ถือเป็นหนึ่งในเกมที่เสียหายๆสำหรับในการลุ้นแชมป์ลีกกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้
ข้อเท็จจริงที่น่าตกใจก็คือ คล็อพ ยังคงคอยชัยชนะแมตช์แรก
สำหรับเพื่อการเยือน “โรงแสดงละครที่ความฝัน” เนื่องจากตลอด 6 แมตช์ ที่เดินทางไปปะทะกับคู่แค้นตลอดกาล แอนด์โค. สะกดคำว่าชนะไม่เป็นเลยโดยแบ่งเป็นเสมอ 4 และก็แพ้ 2 แมตช์
เกมปัจจุบันที่ทั้งคู่ทีมดวลกันบนฟลอร์หญ้าที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ก็คือแมตช์ที่ แมนยู ชนะ หงส์แดง 3-2 เขี่ยผู้มาเยือนไม่เข้ารอบ 4 เอฟเอ คัพ โดยเหตุนี้การบุกมาตรงนี้นับว่าเป็นภารกิจสำคัญที่ คล็อปป์ อยากปลดล็อกกักขังนี้ให้หมดสิ้นซะที
แต่ ลิเวอร์พูล ก็ไม่เคยแพ้ต่อเนื่องกันสำหรับเพื่อการดวลกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในทุกรายการ นับจากที่เจอะกันมาในตอนระหว่างปี 2014-2016 โดยแมตช์ปัจจุบันก็เข้าใจกันดีอยู่แล้วว่า “ลิเวอร์พูล” แพ้ “ผีแดง” ในศึกฟุตบอลถ้วยโบราณที่สุดในโลก
- “ปีศาจแดง” น่ากลัวทุกตำแหน่ง
ในช่วงเวลานี้คงต้องกล่าวว่านักเตะ “ภูติผีปีศาจแดง” ทุกคนอันตรายทุกตำแหน่ง ไม่เว้นแม้กระทั้งในซุ้มม้านั่งสำรอง เพราะว่าพวกเขาเต็มไปด้วยความฮึกเหิม กีฬาขี่ม้า
สำหรับในการที่กำลังจะได้ตะบันคู่อาฆาตนิรันดรให้ดับแดดิ้นไม่เหลือภาวะสำหรับเกม “แดงเดือด” แมตช์ในที่สุดประจำฤดูกาลนี้ ที่ผ่านมา “หงส์แดง” ข่มแมนฯ ยูไนเต็ด มานานหลายฤดูกาล โดยยิ่งไปกว่านั้นเมื่อฤดูที่ผ่านมา
พวกเขาจัดหนักใส่ “ปีศาจร้ายแดง” คาถิ่นแอนฟิลด์ รวมทั้งโน่นยอดเยี่ยมในเกมที่ส่งให้ หงส์แดง เถลิงบัลลงก์แชมป์พรีเมียร์ลีกยุคแรกในรอบ 3 ทศวรรษอย่างยิ่งจริงๆ
อย่างไรก็ตามในฤดูกาลนี้เหตุการณ์ทั้งปวงแปรไปแล้ว โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ปลุกปั้นทีมที่เคยซวดเซ ปัจจุบันนี้เข้มแข็งรวมทั้งอันตรายมากๆ
ที่สำคัญหัวใจนักสู้ของพวกเขาเข้มแข็งยากจะขัดขวางได้จริงๆด้วยเหตุว่ามีหลายเกมที่ “ผีแดง” มีสกอร์ด้อยกว่า แต่ว่าสามารถพลิกกลับมาชนะได้
นอกเหนือจากนั้นขุมกำลังของกลุ่มตอนนี้จำเป็นต้องบอกว่าอัดแน่นไปด้วยนักฟุตบอลที่กำลังอยู่ในตอนท็อปฟอร์ม ไล่ตั้งแต่แผงแบ็กโฟร์หากแม้เกมนี้จะขาด แฮร์รี่ แม็กไกวร์
แม้กระนั้น เอริก ไบยี่, วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ หรือแม้กระทั้ง อั๊กเซล ตวนเซเบ้ ก็สามารถลงมาชดเชยได้ ตอนที่ผู้เฝ้าประตู ดีน เฮนเดอร์สัน ก็อยู่ในตอนเหนียวหนึบซะด้วย
สำหรับฟูลตัวบุกปีกซ้ายขวาอย่าง ลุค ชอว์ กับ อารอน วาน-บิสซาก้า ก็เด่นทั้งยังเกมรุกแล้วก็รับ ส่วนแผงกองกลางบอกเลยว่าแมนฯ ยูฯ ข่ม หงส์แดง เนื่องจากอีกทั้ง เฟร็ด, สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ปอล ป็อกบา
และก็ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ทำผลงานได้ยอดเยี่ยม สวนกับแดนกลางของกลุ่มเยี่ยมที่ปัจจุบันนี้เล่นได้แบบลุ่มๆดอนๆกล่าวโทษแน่ๆไม่ค่อยได้
ระหว่างที่แดนหน้าเพียงแค่มองเห็นชื่อ มาร์คัส แรชฟอร์ดกับ เมสัน กรีนวู้ด บอกเลยว่าเกมรับ “เดอะ เร้ดส์” คงจะได้หนาวๆร้อนๆ ดูบอลสด
เพราะว่าพวกเขามีทั้งยังความเร็ว และก็ความเฉียบคม แถมยังมี เอดินสัน คาวานี่ ที่ไม่ว่าจะพอดีจริงหรือผู้เล่นสำรองก็สามารถสร้างไม่เหมือนกันได้
