จบลงด้วยการ จบด้วยการเสมอแบบไม่มีสกอร์ 0-0  

จบลงด้วยการ “บิ๊กแมตช์” พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ระหว่าง ปืนใหญ่ ชั้น 9 เปิดเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม รับการมาเยี่ยมของรองจ่าฝูง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นเสียงพร่ำบ่น

โดยผลงานปัจจุบันในลีกของทั้งสองนั้น “ปืนใหญ่” บุกไปอัด เซาธ์แฮมป์ตัน 3-1 ทำสถิติไม่มีปราชัย 6 นัดหมายติดในลีก ส่วน สะดุดข้างหลังพลิกล็อกพลาดให้กลุ่มบ๊วยอย่าง เชฟฯ ยูไนเต็ด 1-2

มิเกล อาร์เตต้า ยังไม่มี ปิแอร์-เอเมอริก โอบาเมย็อง เหมือนกับ บูคาโย่ ซาก้า จบลงด้วยการ ที่มีความรู้สึกเจ็บ โดยแนวรุกวาง อเลซ็องด์ ลากาแซตต์ ยืนหน้าเป้า

รวมทั้งให้ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่, เอมิล สมิธ โรว์ และก็นิโกล่าส์ เปเป้ จบลงด้วยการ ส่วน มาร์ติน โอเดการ์ด ลำแข้งตัวใหม่ที่ยืมมาจาก เรอัล มาดริด มีรายชื่อบนม้านั่งสำรอง

ด้าน ของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา แปลงถึง 5 ตำแหน่ง อ็องโตนี่ มาร์กสิยาล หลุดไปเป็นสำรองส่ง เอดิสัน คาวานี่ เป็นหน้าเป้า มีแนวรุกส่งเสริมทั้งยัง ปอล ป็อกบา, บรูโน่ แฟร์นันด์ส แล้วก็ มาร์คัส แรชฟอร์ด

ออกตัวครึ่งแรก ในตอน 10 ตอนนั้น ทั้งสองกลุ่มเล่นด้วยความระมัดระวัง แล้วก็ถึงแม้ แมนฯยูไนเต็ด จะครองเกมได้เหนือกว่า แต่ว่าทั้งสองก็ยังหาช่องทางเข้าทำไม่ได้เลยซักหน

ช่วง 16 เจ้าถิ่นได้ช่องส่องเข้ากรอบหนแรกก่อนหลัง มาร์ติเนลลี่ ผ่านบอลให้ อเลซ็องด์ ลากาแซตต์ ซัดนอกกรอบแต่ว่าบอลก็ยังไม่ผ่านมือ เด เคอา

ช่วง 20 เกือบจะได้เฮขึ้นนำไปหลังหรือก่อนบอลเตะมุมจาก ลุค ชอว์ เปิดเข้ามา แนวรับปืนใหญ่กระแทกทิ้งไปเข้าทาง เฟร็ด ที่เก็บได้จากแถวสองซัดนอกกรอบ บอลกำลังจะลอยทิ่มมุมแล้วแต่ แบรนด์ เลโน่ ยังพุ่งปัดปลายนิ้วออกหลังเฉียด

อีกนาทีต่อมา โต้กลับมาบ้าง เอมิล สมิธ โรว์ ลากเลื้อยพาบอลขึ้นมาก่อนไหลให้ นิโกล่าส์ เปเป้ ซัดหลุดกรอบออกไปอย่างน่าผิดหวัง

ประมาณ 25 ได้ลุ้นจากลูกคอนเนอร์หนแรก นิโกล่าส์ เปเป้ เปิดด้วยซ้ายโค้งมาเข้าหัว กรานิต ชาก้า แต่ว่ากระแทกค่อยไปไปเข้ามือ ดาบิด เด เคอา

อีกสองตอน กองทัพปืนโตได้ลุ้นจากฟรีคิกนอกกรอบอีกครั้ง เซดริก โซอาเรส เปิดโค้งไปเสาไกลให้ ดาวิด ลุยซ์ กระแทกย้อนเข้ากึ่งกลางแบบได้เสียว แต่ว่ายังดีที่แนวรับผีแดงช่วยกันจัดการออกไปได้

ผ่านไป 30 ประมาณ บอลแลกเปลี่ยนกันสนุก อาร์เซน่อล ได้สวนกลับ สมิธ โรว์ โชว์สเต็ปลากเลื้อยจากกึ่งกลางสนามพาบอลขึ้นมาแล้วแทงลึกให้ นิโกล่าส์ เปเป้ ควบไปเอาบอลก่อนสับขาโยกหลอกแล้วซัดด้วยซ้ายไปเสาไกลหลุดกรอบออกไปแบบได้เสียว

ตอน 33 ได้โอกาสได้ลุ้นบ้าง จากจังหวะที่ ลุค ชอว์ เปิดบอลยาวมาเสาสองให้ แอรอน วาน-บิสซาก้า เทกตัวขึ้นโขกแต่บอลหลุดกรอบออกไป

อีกนาทีถัดมา บรูโน่ แฟร์นันด์ส หลุดเข้าไปในกรอบก่อนจะบากบั่นปั่นด้วยขวาไปเสาสอง แม้กระนั้นบอลโค้งไม่พอหลุดข้างหลังไปอีก

ช่วง 37 โอเล่ กุนนาร์ โซลชา จำต้องเปลี่ยนตัวคนแรก หลัง สกอตต์ แม็คโทมิเน่ย์ เล่นต่อไม่ไหวจำเป็นต้องส่ง อ็องโตนี่ มาร์กสิยาล ลงมาเล่นแทน กีฬาขี่ม้า

ช่วงท้ายครึ่งแรก ผีแดงบดบีบคั้นอย่างหนัก นาที 40 แฮร์รี่ แม็คไกวร์ กระแทกจากลูกเตะมุมแต่ว่ายังไปเข้ามือ เลโน่ อีก 4 ต่อมา ได้ลุ้นฟรีคิกจากนอกกรอบ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ปั่นด้วยซ้ายไม่ถึง 25 บอลไปติดหัว ดาวิด ลุยซ์ ออกข้างหลัง

จบครึ่งแรก ยังเสมอ 0-0

โดยสถิติครึ่งแรกนั้น โอกาสยิงของทั้งสองนั้น 7 ครั้งเสมอกัน และก็เข้ากรอบ 2 ครั้งเสมอกัน ส่วนสถิติครองบอลนั้น “ผีแดง” เหนือกว่าที่ 63% ส่วนปืนใหญ่นั้นแค่ 37%

กลับมาเล่นต่อในช่วงหลัง เจ้าบ้าน สลับตัวคนแรกด้วยการส่ง วิลเลี่ยน ลงไปเล่นแทน กาเบรียล มาร์ติเนลลี่

ก่อน 49 ปืนใหญ่ เกือบจะได้ลุ้นขึ้นนำข้างหลัง เบเยริน ครอสไปถึง วิลเลี่ยน ทางเสาสองแต่งเข้าขวาก่อนซัดไปติด วาน-บิสซาก้า อย่างโชคร้าย

ตอน 59 แมนฯยู แทบได้ลุ้นขึ้นนำ ครั้งนี้ ลุค ชอว์ ผ่านไปหน้าเสาแรกให้ เอดินสัน คาวานี่ ใส่เข้ามาซัดด้วยขวาแม้กระนั้นยังไม่ผ่าน เลโน่ ที่ออกมาเซฟช่วยให้กลุ่มไม่เสียประตู

ครั้ง 64 อาร์เซน่อล มาได้ลุ้นฟรีคิกนอกกรอบระยะหวังผล อเลซ็องด์ ลากาแซตต์ วิ่งมาปั่นด้วยซ้ายไม่ถึง 20 หลา บอลผ่านกำแพงจะเข้าอยู่สุดแท้แต่ไปชนคานอย่างโชคร้าย

ต่อมาอีกสองนาที เจ้าของบ้านได้ลุ้นอีก เซดริก โซอาเรส ครอสบอลเข้ากึ่งกลาง บอลไปติด วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ ก่อนมาเข้าทาง เอมิล สมิธ โรว์ ซัดด้วยขวาเสาแรกแต่ว่ายังไม่ผ่านมือ เด เคอา ที่เซฟช่วยผีแดงเฉียด

ช่วง 79 อาร์เซน่อล แทบทำพลาดข้างหลังทำแทงอลโดน แอรอน วาน-บิสซาก้า แย่งบอลได้ก่อนให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด ดึงเข้าไปซัดเต็มแรงบอลพุ่งไปเข้าข้างตาข่าย

ช่วง 82 อาร์เตต้า ส่ง มาร์ติน โอเดการ์ด ลงประเดิมเกมแรกข้างหลังเพิ่งย้ายมาไม่ถึงสองวัน โดยถอดเอา เอมิล สมิธ โรว์ ออกไปพัก ดูบอลสด

ครั้ง 89 ผีแดงเสียโอกาสได้ลุ้นขึ้นนำอย่างจัง หลัง ววาน-บิสซาก้า ครอสเข้าไปหน้าปากประตู คาวานี้่ ใส่เข้ามากระแทกแม้กระนั้นบอลหลุดเสาออกไปจวนเจียน

จบเกม สรุปว่า อาร์เซน่อล เสมอกับ แมนฯยูไนเต็ด แบบไม่มีสกอร์ 0-0 แบ่งกันไปกลุ่มละคะแนน “ปืนใหญ่” มีอยู่ 31 คะแนนขึ้นมารั้งชั้น 8 ก่อน

ส่วน “ผีแดง” มีเพิ่มเป็นเป็น 41 แต้ม รั้งชั้น 2 เหมือนเดิม แต่ว่าตาม “เรือใบสีฟ้า” 3 คะแนน แถมแมนฯสิตี้แข่งขันน้อยกว่าหนึ่งเกมด้วย