พลิกสถานการณ์ จ่าฝูงเป็นเดิมพัน! ส่อง 11 นักเตะตัวจริงแมนฯยูไนเต็ด

พลิกสถานการณ์ ในเกมไปเยือนลิเวอร์พูล คาด อองโตนี่ มาร์กซิยาล ฟิตทันลงล่าตาข่ายให้ทีม โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดมีโปรแกรมนำทัพ “ปีศาจแดง” บุกไปเยือนลิเวอร์พูล คู่ปรับตลอดกาลในศึก พรีเมียร์ลีก นัดบิ๊กแมตช์

ที่สนาม แอนฟิลด์ วันอาทิตย์ที่ 17 มกราคมนี้ (23.30 น. ตามเวลาในประเทศไทย) หาก แมนฯยูไนเต็ดสามารถบุกไปชนะ “หงส์แดง” ได้สำเร็จจะทำให้โอกาสลุ้นแชมป์เพิ่มมากขึ้นอีกเยอะ เพราะก่อนลงเตะเกมนี้ “ปีศาจแดง” รั้งจ่าฝูง หลังลงเล่น 17 นัด

เก็บไปได้ 36 คะแนน มากกว่าลิเวอร์พูล 3 แต้ม ในนัดนี้ โซลชา จะอดใช้งานนักเตะที่เจ็บอยู่แล้วทั้ง เบรนดอน วิลเลี่ยมส์, ฟิล โจนส์ และ มาร์กอส โรโฮ รวมทั้งยังต้องเช็กความฟิตของ วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ, เนมานย่า มาติช และ อองโตนี่ มาร์กซิยาล กีฬาขี่ม้า

โดยรายหลังคงจะลงเล่นได้ คาดว่า โซลชา จะใช้ระบบ 4-2-3-1 ลงสู้กับลิเวอร์พูล โดยมี ดาบิด เด เคอา ยืนเฝ้าเสา ส่วนแผงแบ็กโฟร์ให้ อารอน วาน-บิสซาก้า ประจำการแบ็กขวา ขณะที่ ลุค ชอว์ เล่นแบ็กซ้าย ส่วนคู่เซนเตอร์แบ็กเป็น แฮร์รี่ แม็กไกวร์ กับ เอริก ไบยี่

ที่กำลังโชว์ฟอร์มได้อย่างแข็งแกร่ง ขณะที่คู่กองกลางตัวรับใช้ เฟร็ด กับ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ส่วน 3 แนวรุกให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด ยืนฝั่งขวา และ ปอล ป็อกบา เล่นด้านซ้าย โดยมี บรูโน่ แฟร์นันด์ส คอยปั้นเกม ด้านหัวหอกตัวเป้าจะใช้ มาร์กซิยาล ลงล่าตาข่าย

โดยมี เอดินสัน คาวานี่ พร้อมลงมาพลิกสถานการณ์เช่นเดียวกับ เมสัน กรีนวู้ด กองหน้าดาวรุ่ง

เป็นโอกาสทอง

พลิกสถานการณ์ เจ้าพ่อทีมเยือนวัดพลังเทพเจ้าบ้าน

พลิกสถานการณ์ ลิเวอร์พูลสร้างประวัติศาสตร์ ให้กับสโมสรด้วยการที่พวกเขาไม่แพ้ใครเลยในการเล่นที่แอนฟิลด์ นับตั้งแต่เดือนเมษายน 2017 หรือกว่า 3 ปีเข้าไปแล้ว แต่ในช่วงหลังๆ พวกเขาฟอร์มไม่ค่อยคงเส้นคงวา ทำให้การเจอกับ แมนฯยูไนเต็ดในเกมนี้ค่อนข้างน่า

เป็นห่วงเหมือนกัน หนึ่งในเหตุผลที่ แอนฟิลด์ เป็นดั่งป้อมปราการเหล็กมาจากผู้เล่นคนที่ “12” หรือเหล่าสาวก “เดอะ ค็อป” ที่เข้าไปส่งเสียงกระตุ้นนักเตะทีมรักให้วิ่งสู้ฟัด และทำให้คู่แข่งต้องเข่าอ่อน จนสุดท้ายก็ต้องพ่ายแพ้ แม้ในช่วงโควิด-19 ระบาดทำให้

แฟนบอลโดนห้ามเข้า แต่มนต์ขลังของพวกเขาก็ยังทำให้บรรดาอาคันตุกะหวาดผวา กระนั้นการที่ไม่มีแฟนบอลเข้าสนามมานานเกือบปี ดูเหมือนว่าทุกๆ ทีมเริ่มจะปรับตัวกับการไม่หวาดกลัวสนามแห่งนี้ เพราะไม่มีกองเชียร์คอยหนุนหลังเจ้าบ้าน ทำให้มี

หลายเกมที่พวกเขาต้องเจอกับความยากลำบากในการยิงประตูหรือเก็บ 3 แต้ม เห็นได้ชัดในแมตช์เสมอ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน เป็นต้น เหมือนกับที่ โซลชา ให้สัมภาษณ์ก่อนเกม “เร้ด วอร์” ว่าลิเวอร์พูล ขาดความได้เปรียบจากการไม่มีกองเชียร์ในช่วงนี้ เป็นโอกาสทอง

และทำให้ทุกๆ สโมสรเท่าเทียมกัน ดังนั้นในกรณีนี้ถือว่า “หงส์แดง” เสียความได้เปรียบไปเยอะ สวนทางกับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ที่ฟอร์มโหดมากในการเล่นเกมเยือน โดยสามารถเก็บได้ถึง 22 คะแนนจาก 24 แต้ม คว้าชัยชนะ 7 จาก 8 เกมเยือน (เสมอ เลสเตอร์ ซิตี้) ฉะนั้นพวกเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญ

ดูบอลสด

ผลการแข่งขันมีผลต่อการลุ้นแชมป์

พลิกสถานการณ์ เกมนี้นอกจากจะเป็นศึกแห่งศักดิ์ศรีของสองทีมที่ได้ชื่อว่ายิ่งใหญ่ที่สุดในเกาะอังกฤษแล้ว ผลการแข่งขันมีผลอย่างยิ่งในการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก ในฤดูกาลนี้ แม้หลายคนอาจจะมองว่ามันยังเร็วเกินไปที่จะพูดเรื่องนี้ แต่ต้องบอกว่าชัยชนะ แพ้ เสมอ อาจจะทำให้

เกิดจุดเปลี่ยนก็ได้ หากเช็คจากตารางลีกในเวลานี้ แม้แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด จะรั้งตำแหน่งจ่าฝูง ด้วยผลงาน 17 เกม เก็บไป 36 คะแนน แต่หากพวกเขาพลาดท่าให้ลิเวอร์พูล นั่นหมายความว่าแชมป์เก่าจะทำแต้มขึ้นมาเท่ากันพร้อมกับแซงหน้าขึ้นเป็นจ่าฝูง ดูบอลสด

แทนด้วยผลต่างประตูได้เสียที่ดีกว่าเยอะ อย่างไรก็ตามหาก “ปีศาจแดง” เก็บ 3 คะแนนได้พวกเขาจะทำแต้มทิ้งห่างลิเวอร์พูล ถึง 6 คะแนน แม้เหลือการแข่งขันกว่าครึ่งหนึ่งก็ตาม แต่แรงกดดันมหาศาลจะถาโถมเข้าใส่ “เดอะ เร้ดส์” ทันที เพราะพวกเขาจะพลาด

ท่าไม่ได้อีก ไม่งั้นยากจะไล่ตาม แมนฯ ยูฯ ทัน กระนั้นหากผลออกมาเสมอ คนที่นั่งยิ้มก็คือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เพราะตอนนี้เขานำ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ค่อยๆ ขยับกลับมาลุ้นแชมป์แบบเงียบๆ อีกครั้ง โดยมี 32 คะแนน แต่แข่งน้อยกว่าทั้ง 2 ทีม 1 แมตช์ และหาก

ศึกแดงเดือดจบลงด้วยการแบ่งแต้ม นั่นหมายความว่าโอกาสทองจะกลับมาอยู่ที่ “เรือใบสีฟ้า” ทันที งานนี้ตาอินกับตานาแข่งกันโม้ เกทับกันมันปาก แต่สุดท้ายตาอยู่คว้าพุงปลาไปกิน บอกได้คำว่า “โคตรเจ็บใจ”