ไขว่คว้าไปจนถึงฝัน กีฬาที่ต้องทุ่มเทชีวิตจิตใจ รวมถึงค่าใช้จ่ายอีกไม่ใช่น้อย
ไขว่คว้าไปจนถึงฝัน ตามล่าฝัน คุณเกล้าเริ่มลงแข่งขัน ในระดับสมาคม ที่จังหวัดนนทบุรี อีเควสเทปรี่ยน ไรดิ้ง เซ็นเตอร์ ตอนอายุ 10 ขวบ โดยเริ่มจากระดับ พื้นฐาน ซึ่งเป็นช่วงต้น แล้วหลังจากนั้นก็ไต่ระดับขึ้นไปเรื่อยโดยไปแข่งขันตาม สมาพันธ์ขี่ม้าต่างๆในประเทศ
ก่อนที่จะก้าวไป แข่ง ในสนามต่างชาติ “พึ่งจะเริ่มแข่งขัน ในระดับโลก เมื่อปีที่ผ่านมาจ้ะ ไปแข่งขันที่เมืองนีซ ประเทศฝรั่งเศส เป็นการแข่ง C.D.I. (การแข่งขันชิงชัยแต่งตัวนานาประเทศ)
ที่มีนักกีฬา จากหลายประเทศ ทั้งยังรัสเซีย ประเทศสเปน อิตาลีแล้วก็ ประเทศ โซนยุโรปมาร่วม ซึ่งประเทศในแถบทวีปเอเชียมีเพียงแค่ 1 คน
จากไต้หวัน รวมทั้งหนูที่มาจาก เมืองไทย ซึ่งเป็นความกระหยิ่มใจที่สุดแล้ว ราวกับพวกเรา เป็นผู้แทนประเทศ ด้วยเหตุว่าที่สนามสำหรับเพื่อการแข่งขัน มีธงชาติไทย ติดอยู่ด้วยจ้ะ”
คุณเรืองวิทย์เล่าถึงบุตรสาวอย่างพึงใจไม่แพ้กันว่า “เกล้าได้แชมป์เมืองไทยรุ่น ไรเดอร์ชายหนุ่ม ซึ่งนักกีฬาจะต้องมีอายุไม่เกิน 21 ปีตอนอายุ 16 ปี เขาเริ่มตั้งมั่นว่าจะเอาจริงเอาจังกับกีฬาประเภทนี้ตอนอายุ 14-15 ปี ความเอาจริงเอาจังมีหลายขั้น
เริ่มจากขั้นที่หนึ่ง ที่พวกเรามีความคิดเห็นว่า ถูกใจขี่ม้าขมักเขม้น ก็ซื้อม้าโพนี่ ตัวแรกให้ และก็อยู่กับเขามา 5 ปี พอเพียงสรีระเปลี่ยนแปลง
เริ่มสูงมากขึ้น ม้าโพนี่ ตัวเล็กเหลือเกิน พวกเราก็ถามเขาว่า ต้องการขี่แบบบันเทิงใจๆหรือไม่ หรือยังต้องการไป ต่อสำหรับการชิงชัย ที่สูงขึ้น
ซึ่งถ้าหากต้องการไปต่อ ก็จะต้องซีเรียสแล้ว ต้องหาม้าตัวใหญ่ ที่กับเขา และก็เก่งพอเพียง ที่จะไต่ระดับขึ้นไปด้วยได้ เนื่องจากนี่เป็น กีฬาประเภทเดียว ที่แข่งขันแบบคู่ แต่ว่าพาร์ทเนอร์ เป็นคนละสายพันธุ์
เป็นคนกับม้า ความรู้ความเข้าใจจำเป็นต้องไปร่วมกันได้ ม้าที่ความรู้ความเข้าใจไม่ถึงจะก่อให้สู้คู่อื่นมิได้ แม้กระนั้นไม่ใช่ว่าซื้อม้าแพงๆสุดยอดมาแล้วจะชนะเสมอถ้าหากคนขี่ความรู้ความเข้าใจไม่ถึง”
ม้าใหญ่ที่ สามารถลงแข่ง ระดับนานาชาตินั้น ครอบครัวนันทาภิวัฒน์ ต้องเสาะหา ในต่างประเทศ โดยคุณลดาริน เป็นผู้นั่งดูวิดีโอ คลิปม้าเป็นร้อยตัว พันธุ์ทางแต่เท่จริง
ติดต่อเพื่อนพ้อง ที่อังกฤษให้ไป มองให้ และก็ไปทดลองขี่ ให้บุตรสาว แต่ว่าก็ไปจับตัวได้จริงที่สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี
โดยได้รับการชี้แนะจากเพื่อนพ้องของครอบครัวอีกท่านหนึ่ง แต่ว่าสิ่งจำเป็น มากกว่าการได้ม้าดี ก็คือการได้ผู้ฝึกสอน คนฝึกม้า และก็นักขี่ม้า ที่สมควรด้วย
“ตอนพาเกล้า ไปซ้อมที่ คอกนี้หนแรก เมื่อปี 2012 ป๊ะป๋าของ ผู้ฝึกสอนสัมภาษณ์ ลูกว่าต้องการไปถึงจุดไหน เกล้าก็ตอบไปว่า ต้องการติดกลุ่มชาติ สักหนึ่งครั้งหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็น กีฬาซีเกมส์ เอเชี่ยนเกมส์ และก็โอลิมปิก
หากเป็นได้ แล้วเขาก็กล่าวว่า ‘ทำให้มันเกิดขึ้นกันเถิด’ รวมทั้งยังชี้แนะเพราะว่าการจะไปลงแข่งขันระดับนั้น จะไปทั้งที น่าจะไปแล้วจับเหรียญให้ได้
เนื่องจากว่ารายจ่าย สำหรับการจัดแจง ฝึกฝนและก็ ขนส่งม้าไป ก็เสมอกัน ต่อจากนั้น เขาจัดโปรแกรม ฝึกหัดให้โดยทันที
ซึ่งจำต้องมา ที่คอกเขา ทุกซัมเมอร์ อย่างต่ำปีละ 7-8 อาทิตย์ ด้วยความ ที่เกล้าเอง มีความชื่นชอบ เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เขาก็เลยยินดีที่จะไปฝึกฝนที่เยอรมัน”
จุดหมายคือตัวแทนประเทศไทย
ณ เวลานี้คุณเกล้าอยู่ในขั้นตอนการสมัครเข้ามหาวิทยาลัยซึ่งการหาที่เรียนต้องพิจารณาจากตำแหน่งที่ตั้งของคอกม้าที่ฝึกซ้อมเป็นหลัก ก่อนจะเลือกมหาวิทยาลัยเป็นอันดับถัดไป กีฬาขี่ม้า
เนื่องจากว่าพึ่งจะเปิดฉากสนามสำหรับแข่งนานาประเทศ การแข่งขันชิงชัยแต่งตัวนานาประเทศ ไปได้ปีเดียว ก็เลยนับว่าเป็นตอนเก็บเกี่ยวประสบการณ์ นอกเหนือจากผู้ฝึกสอนมือโปรแล้ว ก็ยังมีเมนเทอร์ดูแลทางด้านจิตใจให้บุตรสาวด้วย
คุณลดารินชี้แจงว่า “ครั้งใดก็ตามแข่งขันเสร็จ เขาจะทราบเลยว่าต้องการทำให้ดียิ่งกว่านี้ อยากที่จะให้คะแนนออกมาดียิ่งกว่านี้ ซึ่งผู้ที่ไม่ใช่นักกีฬา แข่งได้ จะไม่คิดอย่างงี้นะคะเขาจะไม่หวังผลว่าจำเป็นต้องทำให้ดีเท่านั้น
แต่ว่ายังต้องการทำให้ดียอดๆขึ้นอีก เขาแฮปปี้ ที่มาถึงจุดนี้ได้ แม้กระนั้นวันที่แข่งขันแล้ว ออกมาผิดหวัง ก็มี ซึ่งในที่สุด เขาก็จำเป็นต้องศึกษา
ว่าสิ่งที่ เขาผิดหวัง และก็สิ่งที่เขาพลาดไป เขาจำเป็นต้องกลับมา ปรับปรุง ย้อนกลับไป ในระหว่างที่เขา ตกม้าคราวแรก บิดามารดาสะดุ้งมากมาย
แต่ตัวเขาเองนี่แหละ ที่ปีนกลับขึ้นหลังม้า ด้วยตัวเองอีกครั้ง เพราะเขาไม่ ยอมแพ้ ตอนเด็กๆตกม้า ก็ขึ้นใหม่ ตอนนี้เขาตกแล้ว ก็ต้องปีนกลับขึ้นไปใหม่ ได้เหมือนกัน” ดูบอลสด