นับว่าเป็นอีกหนึ่ง สจ๊วร์ต ที่เหมาผู้เดียวในเกมนี้ ช่วยกลุ่มบุกเอาชนะ 2-1

นับว่าเป็นอีกหนึ่ง ศึกบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่สนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม เป็นการเจอกันระหว่าง แมนฯ ซิตี้ จ่าฝูงของตารางเจอ ลีดส์ ยูไนเต็ด กลุ่มอันดับ 11 มีภารกิจสำคัญ

คว้าชัยมา 6 เกมต่อเนื่องกันรวมทุกรายการ นับว่าเป็นอีกหนึ่ง เกมนี้พวกเขาไม่มีปัญหา สำหรับในการจัดกองทัพ แต่ว่ามีการโรเตชั่น ผู้เล่นหลายตำแหน่งส่ง นาธาน อาเก้

ยืนเป็นคู่เซ็นเตอ์ กับ จอห์น สโตนส์ แทน รูเบน อิอาส ที่ได้พัก ในช่วงเวลาที่แนวรุกมี แฟร์ราน ตอร์เรส, ราฮีม สเตอร์ลิง รวมทั้ง กาเบรียล เชซุส นำกองทัพ

ตอนที่ ยูไนเต็ด ของผู้จัดการทีมฟุตบอล มาร์เซโล่ บิเอลซ่า ชนะมา 2 เกมต่อเนื่องกัน เกมนี้แนวรุกส่ง เอลแดร์ คอสต้า ทำเกมรุกแทน แจ็ค แฮร์ริสัน ที่ติดข้อตกลงในข้อตกลงยืมตัว โดยมี แพทริก แบมฟอร์ด ยืนเป็นหัวหอกตัวเป้าอย่างเดิม

ประเดิมครึ่งแรก มาเป็น แมนซิตี้ ที่ขึงบุกใส่ก่อนตามคาด ก่อนที่จะมาได้ลุ้นหนแรกในนาที 17 เมื่อ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ตั้งป้อมซัดด้วยขวานอกจุดโทษแม้กระนั้นบอลยังบินผ่านคานออกไปไกล

นับว่าเป็นอีกหนึ่ง

ต่อจากนั้นสองช่วงต่อมา ราฮีม สเตอร์ลิ่ง แผงหน้า ได้ช่องอีกทีจากจังหวะรับบอล ได้บอลในเขตโทษแล้วแต่งเข้าขวา ก่อนซัดเสาแรกแม้กระนั้นครั้งนี้ อิลล็อง เมสลิเย่ร์ ยังปิดเสาแรกได้ดีรับเข้าซองสบาย

ตอนที่ ย้ำตั้งรับรอจังหวะสวนกลับทำร้ายแม้กระนั้นก็ยังหาจังหวะจบสกอร์แบบแจ่มแจ้งมิได้ ทำให้ผ่านครึ่งชั่วโมงทั้งคู่กลุ่มยังเสมออยู่ 0-0

จากนั้น “เรือใบสีฟ้า” เร่งเครื่องมากขึ้นเรื่อยๆ ตอน 37 แฟร์นานดินโญ่ เลื้อยทะลุเข้าจุดโทษ และก็ไหลมอบให้พานให้ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ยืนซัดโล่งๆแต่ว่าบอลหลุดเสาออกไปแบบน่าผิดหวัง

แต่มาทำช็อกเจ้าถิ่นได้ประตูขึ้นนำ 1-0 ในตอนที่ 42 จากจังหวะที่ แพทริก แบมฟอร์ด ไหลบอลให้ สจ๊วร์ต ดัลลัส ตั้งป้อมกดด้วยขวาบอลชนเสาก่อนผ่านเส้นเข้าประตูไป

แต่ตอนทดเจ็บ นาที 45+1 กองทัพ “ยูงทอง” จำเป็นต้องมาเหลือผู้เล่น 10 คน จากจังหวะที่ เลียม คูเปอร์ ไปแทงสกัดใส่ กาเบรียล เชซุส อย่างหนัก ผู้ตัดวินย้อนดูวีเออาร์ ก่อนย้อนกลับมาแจกใบแดง

ในตอนที่เหลือทั้งคู่กลุ่มทำอะไรกันเพิ่มมิได้

จบครึ่งแรกเป็น ลีดส์ ที่นำ 1-0 ครึ่งแรกเกมดำเนินมาถึง ประมาณ 53 แทบได้ประตุตามตีเสมอ จากจังหวะที่ โอเล็กซานเดอร์ สินเชนโก้ ตั้งป้อมกดด้วยซ้ายในจุดโทษ อิลล็อง เมสลิเย่ร์ จำเป็นต้องออกแรงพุ่งปัดทิ้งออกมาได้จวนเจียน

“เรือใบสีฟ้า” บุกใส่สม่ำเสมอง ประมาณ 71 แฟร์นานดินโญ่ นับว่าเป็นอีกหนึ่ง ชากมาซัดด้วยขวาหน้าจุดโทษ อิลล็อง เมสลิเย่ร์ พุ่งปัดออกหลัง กีฬาขี่ม้า

ตราบจนกระทั่ง นาที 76 ตามตีเสมอ 1-1 จากจังหวะที่ แบร์นาโด้ สิลวา ไหลบอลให้ แฟร์ราน ตอร์เรส กดด้วยขวา แบบไม่จับระยะเผาขน ครั้งนี้ อิลล็อง เมสลิเย่ร์ หมดสิทธิ์เซฟ

นับว่าเป็นอีกหนึ่ง

นาที 84 ลีดส์ เกือบจะได้ประตู กลับขึ้นนำอีกรอบ จากจังหวะที่ ราฟินญ่า หลุดผู้เดียวเข้าจุดโทษ แต่ว่าสัมผัสบอลไม่ผ่านมา เอแดร์ชอน ที่ออกมาใช้ขาตัดบอลไว้ได้

ด้านหลังเกม มีดราม่าเกิดขึ้นเมื่อ แซงขึ้นนำอีกทีเป็น 2-1 จากจังหวะสวนกลับเร็ว เอซยาน อลิออสกี้ พนันบอลทะลุช่องให้ สจ๊วร์ต ดัลลัส หลุดไปซัดผ่านมือ เอแดร์ซอน เข้าประตูไปอย่างสุดช็อก

เวลาทีเหลือ ไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม ยูไนเต็ด บุกชนะ แมนฯ ซิตี้ 2-1 ขยับขึ้นมารั้งที่ 9 ของตาราง ส่วน “เรือใบสีฟ้า” ยังนำ แมนฯ ยูไนเต็ด 14 แต้มและก็แข่งขันมากกว่าสองนัดหมาย

แมนฯ ซิตี้ (4-3-3) : เอแดร์ซอน โมราเอส – ชูเอา กานเซโล่, จอห์น สโตนส์, นาธาน อาเก้, แบ็งฌาแม็ง เมนดี้ – แฟร์นานดินโญ่, โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้, แบร์นาร์โด้ ซิลวา – ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, แฟร์ราน ตอร์เรส, กาเบรียล เชซุส

ลีดส์ ยูไนเต็ด (4-4-1-1) : อิลล็อง เมสลิเย่ร์ – ลุค อายลิ่ง, ดีเอโก้ ยอเรนเต้, เลียม คูเปอร์, เอซยาน อลิออสกี้ – คัลวิน ฟิลลิปส์ – ราฟินญ่า, สจ๊วร์ต ดัลลัส, ไทเลอร์ โรเบิร์ตส์, เอลแดร์ คอสต้า – แพทริก แบมฟอร์ด ดูบอลสด